เน็ตป๊าม้า (Net PAMA) เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในปีงบประมาณ 2562 เพื่อพัฒนาและออกแบบเนื้อหาหลักสูตรการเลี้ยงลูกเชิงบวกให้เป็นการเรียนรู้แบบออนไลน์ เพื่อช่วยให้ผู้ปกครองมีเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กอย่างถูกต้อง ส่งเสริมให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกในครอบครัว และฝึกให้ผู้ปกครองมีทักษะในการรับมือกับปัญหาพฤติกรรมของลูก โดยมี ศ.นพ.ชาญวิทย์ พรนภดล จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นหัวหน้าโครงการ ร่วมกับทีมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น กุมารแพทย์ รวมถึงนักจิตวิทยาอีกหลายท่าน ในการพัฒนาและปรับปรุงเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองทั่วประเทศได้เรียนรู้จิตวิทยาการเลี้ยงลูกเชิงบวก จึงได้พัฒนาหลักสูตรเน็ตป๊าม้า (Net PAMA) ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพ่อแม่รุ่นใหม่ ให้สามารถเข้าเรียนได้จากคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน เพียงแค่ลงทะเบียนและสมัครเป็นสมาชิกได้ที่ www.netpama.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น


ปัจจุบันเกิดการขยายห้องเรียนเน็ตป๊าม้าโดยนักกระบวนกรที่ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้น นำห้องเรียนเน็ตป๊าม้าไปประยุกต์จัดการสอนกับบริบทพื้นที่ทั้ง โรงพยาบาล ชุมชน สถานศึกษา สถานพินิจ ศาสนสถาน มูลนิธิ สถานรับเลี้ยงเด็ก บ้านพักเด็กและครอบครัว และอื่นๆ รวม 41 ห้องเรียน ใน 27 จังหวัด หรือ 13 เขตสุขภาพ

ผลจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ทั้งพ่อแม่ผู้ปครองประเมินตนเอง ประเมินพฤติกรรมของบุตรหลาน และบุตรหลานประเมินพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย พบว่ากลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครอง มีความพึงพอใจในการอบรมถึง 66.36 % มีความมั่นใจในการนำไปใช้งาน 94.53% และพฤติกรรมของลูกดีขึ้น 90.03% ขณะที่เด็กเองก็มีอัตราของ Self – Esteem เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ จากการปรับวิธีการเลี้ยงดูของพ่อแม่ผู้ปกครอง


ทั้งนี้มีการเผยแพร่และเข้าถึงผู้ปกครองหลายช่องทาง เพื่อให้ครอบคลุมทั้งผู้ที่สะดวกใช้ออนไลน์และผู้ที่อยู่พื้นที่ห่างไกล อาทิ ลงทะเบียนเรียนออนไลน์และเข้าถึงบทเรียนทั้งแบบจัดเต็มและแบบเร่งรัด ผ่านเว็บไซต์หลักของโครงการ: www.netpama.com และ Social Media ต่างๆ เช่น Facebook : โพสต์บทความ แนะนำเทคนิคการเลี้ยงลูก และอัปเดตกิจกรรม YouTube : วิดีโอสอน เทคนิคการเลี้ยงลูกเชิงบวก และกิจกรรม Workshop และ LINE Official : ให้คำแนะนำและแจ้งข่าวสารสำคัญสำหรับผู้ปกครอง อีกทั้ง การจัด Workshop อบรมผู้ปกครองที่สนใจ และจัดกิจกรรมชุมชน
สำหรับปี 2568 มีการจัดกิจกรรมและสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ อย่างต่อเนื่อง ได้แก่
1.“ลูกอยากเล่นด้วยแต่พ่อแม่ดันไม่ว่างจะสื่อสารอย่างไรดี” วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2568
2.“ลูกโกรธจนตีเพื่อน จะสื่อสารอย่างไรดีให้ลูกไม่ทำอีก” วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
3.“รับมืออย่างไร เมื่อลูกเถียง/ดื้อต่อต้าน” วันที่ 12 มีนาคม 2568
4.“เมื่อลูกไม่ยอมไปโรงเรียน จะสื่อสารอย่างไรดีให้ลูกสบายใจที่จะไป” วันที่ 31 มีนาคม 2568
5. “ออทิสติกคืออะไร ใครๆ ก็ว่าฉันพิเศษ” วันที่ 8 เมษายน 2568
6. “ปิดเทอมนี้ ถ้าลูกไม่ติดจอ จะให้ลูกติดอะไร” วันที่ 28 เมษายน 2568
7. “ลูกไม่ได้เถียง แค่อยากส่งเสียงให้พ่อแม่เข้าใจ” วันที่ 30 พฤษภาคม 2568
8. “ลูกขอให้ซื้อของแพง พ่อแม่จะทำอย่างไรดี” วันที่ 26 มิถุนายน 2568
9. “เมื่อลูกไม่อยากไปโรงเรียน พ่อแม่จะพูดยังไงดี” วันที่ 15 กรกฎาคม 2568
10. “เลี้ยงลูกให้อยู่รอด ในสังคมที่โหดร้าย” วันที่ 7 สิงหาคม 2568
รางวัลของโครงการเน็ตป๊าม้า (Net PAMA)
- รางวัลเชิดชูเกียรติจากนายกรัฐมนตรี ด้านนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ประจำปี 2565 (Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2022) เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565

- รางวัลบริการภาครัฐ ประเภทนวัตกรรมการบริการ ระดับดี ประจำปี 2566 จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566

- รางวัล Team Good Practice Award จากงาน Mahidol Quality Fair 2023 เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566

โครงการ เน็ตป๊าม้า (Net PAMA) สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เพราะเน้นการส่งเสริมการเลี้ยงดูเชิงบวก เพิ่มศักยภาพพ่อแม่ผู้ปกครอง และช่วยให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ ได้แก่ SDG 3 การส่งเสริมการพัฒนาเด็กให้มีพฤติกรรมที่เหมาะสมทั้งสุขภาพกายและใจ รวมถึงสุขภาพจิตที่ดีของทั้งเด็กและผู้ปกครอง, SDG 4 มีหลักสูตรการเรียนรู้เชิงโต้ตอบสำหรับผู้ปกครอง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ให้กับผู้ปกครอง, SDG 5 สนับสนุนให้ทั้งพ่อและแม่มีบทบาทร่วมกันในการดูแลและอบรมลูก ซึ่งลดค่านิยมที่โยนภาระการเลี้ยงลูกให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง, SDG 10 เปิดโอกาสให้ครอบครัวในพื้นที่ห่างไกลหรือมีข้อจำกัดด้านอินเทอร์เน็ตเข้าถึงความรู้ ผ่าน “ห้องเรียนเน็ตป๊าม้า” และสร้างโอกาสการเข้าถึงองค์ความรู้ที่เท่าเทียมกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย, SDG 16 ลดความรุนแรงต่อเด็กใน