Circular Economy

เศรษฐกิจหมุนเวียน

Circular Economy หรือ เศรษฐกิจหมุนเวียน เริ่มเข้ามาทดแทนเศรษฐกิจที่เป็นเส้นตรงที่เดิมจะเป็นการนำทรัพยากรมาผลิต เป็นผลิตภัณฑ์และเกิดเป็นขยะของเสียในภายหลัง (Take Make Dispose) โดยระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนจะเปลี่ยนแนวความคิดให้คล้ายกับธรรมชาติที่จะคำนึงถึงการผลิต การใช้ และการนำกลับมาผลิตใหม่ (Make Use Return) เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ในเป้าหมายที่ 12 แผนการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน (Responsible Consumption and Production) ที่จะเปลี่ยนแปลงการผลิต เปลี่ยนแปลงการบริโภคสินค้าและทรัพยากรให้ใช้ทรัพยากรรรมชาติร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ มีการกำจัดขยะที่เป็นมลพิษ ส่งเสริมให้มีการรีไซเคิล ซึ่งช่วยลดขยะมูลฝอยได้ และเป้าหมายที่ 13 การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Action) ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน

มหาวิทยาลัยมหิดล ตระหนักถึงความสำคัญของเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่ช่วยลดปัญหาขยะที่จะเกิดขึ้นได้ เริ่มการบริหารจัดการจากขยะที่เกิดภายในมหาวิทยาลัยมหิดลที่เกิดจากการบริโภค การทำกิจกรรรม การเรียนการสอน โดยนำองค์ความรู้มาพัฒนาปรับแก้ไขปัญหาและดำเนินการไปทีละส่วนอย่างต่อเนื่อง ส่วนแรกคือ การ “ปรับ” เพื่อ “เปลี่ยน” ภายในมหาวิทยาลัย ที่เริ่มจากการนำความรู้มาบริหารจัดการขยะภายในมหาวิทยาลัย โดยเริ่มมองขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้เพื่อปรับให้เกิดการนำมาใช้ใหม่มากยิ่งขึ้น อย่างขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ที่นำเข้า

ธนาคารขยะรีไซเคิล เศษใบไม้กิ่งไม้โดยรอบมหาวิทยาลัยนำเข้าสู่การผลิตฮิวมัสการผลิตฮิวมัส (อินทรีย์วัตถุบำรุงดิน) ส่วนต่อมา คือ การส่งต่อ “องค์ความรู้” สู่สังคม ซึ่งมีการให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจ การสร้างเครือข่ายการจัดการขยะจากระดับครัวเรือนสู่ระดับจังหวัด และส่วนต่อมา คือ Upcycling โดยการนำขยะรีไซเคิลเข้ากระบวนการผลิตได้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่

และถ่ายทอดแนวคิดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์เข้ากับบริบทของมหาวิทยาลัย โดยสื่อสารผ่านรูปแบบของนิทรรศการ ณ “ห้องเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง Sufficiency Economy Philosophy learning room” อาคารอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

การ “ปรับ” เพื่อ “เปลี่ยน” ภายในมหาวิทยาลัย
ธนาคารขยะรีไซเคิล

ธนาคารขยะรีไซเคิล เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2552 เพื่อรณรงค์ให้หน่วยงาน นักศึกษา บุคลากร ปรับแนวคิดเกี่ยวกับขยะและเปลี่ยนพฤติกรรมให้เกิดการคัดแยกขยะมากขึ้น ซึ่งมีการทำงานคล้ายคลึงกับธนาคารพาณิชย์ทั่วไป โดยรับฝากขยะรีไซเคิลและถอนเป็นเงินสดหรือฝากสะสมไว้กับธนาคารขยะรีไซเคิล และมีโปรแกรมในการบันทึกข้อมูลปริมาณขยะและยอดเงิน พร้อมบันทึกลงสมุดคู่ฝากให้สมาชิก โดยราคารับซื้อขยะรีไซเคิลจะมีการประกาศอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์ของกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม และปรับราคาตามท้องตลาดทุกสามเดือน ทั้งนี้การเป็นสมาชิกธนาคารขยะรีไซเคิลสามารถสามารถเป็นได้ทุกคน ทั้งนักศึกษา บุคลากรและบุคคลภายนอก โดยใช้บัตรประชาชน ในการสมัครสมาชิก

adjust-to-change

การดำเนินโครงการ ตั้งแต่ ปี 2552 – ปัจจุบัน มีสมาชิกที่ธนาคารขยะรีไซเคิลมากกว่า 2,000 คน และสมาชิกทั่วไป 5,000 คน ซึ่งมียอดรวมปริมาณขยะรีไซเคิลมากกว่า 2,000 ตัน คิดเป็นยอดรวมการรับซื้อขยะรีไซเคิลมากกว่า 13 ล้านบาท โดยผลกำไร 10% จากการจำหน่ายขยะรีไซเคิลจะนำฝากเข้ากองทุนกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหิดล

การดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องมามากกว่า 10 ปี ช่วยให้สามารถนำขยะรีไซเคิลกลับมาใช้ประโยชน์ มากกว่า 2,000 ตัน ทำให้ขยะรีไซเคิลไม่ปะปนไปกับขยะอื่นๆ ทำให้ลดภาระการบริหารจัดการขยะของภาครัฐ

สมัครสมาชิก และรับฝาก-ถอน ธนาคารขยะรีไซเคิล

อาคารอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม : ทุกวันทำการ เวลา 08.00 – 15.30 น.

อาคารสิ่งแวดล้อมพัฒนดล : เฉพาะวันพฤหัสบดี เวลา 08.30 – 11.30 น.
circular_graph_01-th
กราฟแสดงปริมาณขยะรีไซเคิล ปี พ.ศ. 2552-2565
circular_graph_02_th
กราฟแสดงยอดรับฝากขยะรีไซเคิลและผลประกอบการ ปี พ.ศ. 2552-2565
การผลิตฮิวมัส (อินทรีย์วัตถุบำรุงดิน) จากเศษพืชด้วยระบบกองเติมอากาศ

การผลิตฮิวมัส (อินทรีย์วัตถุบำรุงดิน) จากเศษพืช เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2551 โดยนำเศษกิ่งไม้ ใบไม้ จากหน่วยงาน และพื้นที่ส่วนกลางของมหาวิทยาลัยกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ลดการเผาทำลาย ลดต้นทุนการดูแลรักษาสภาพแวดล้อม

การผลิตฮิวมัสจากเศษพืชด้วยระบบกองเติมอากาศ เริ่มจากการบดย่อยเศษกิ่งไม้ ใบไม้ แล้วนำไปขึ้นกองและผสมมูลวัว โดยใช้ระยะเวลาในการหมัก 30-45 วัน จากนั้นนำออกตากแดดให้แห้ง ก่อนนำมาบดย่อยให้มีขนาดเล็กอีกครั้ง แล้วพักให้จุลินทรีย์สงบประมาณ 3 วัน ก่อนนำไปใช้หรือประจุถุงเพื่อจำหน่าย ตลอดระยะเวลาการดำเนินการตั้งแต่ปี 2551 - 2563 สามารถผลิตปุ๋ยหมักได้มากกว่า 300 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท และเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมาก

circular_graph_03_th.jpg
กราฟแสดงรายได้จากการจำหน่าย “ฮิวมัส (อินทรีย์วัตถุบำรุงดิน)” ปี พ.ศ. 2554-2565
การผลิตน้ำหมักชีวภาพ

การผลิตน้ำหมักชีวภาพ เริ่มขึ้น ในปี 2552 ณ อาคารอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยนำหัวเชื้อบริสุทธิ์ EM (Effective Microorganisms) มาผสมกับกากน้ำตาล และใช้เวลาในการหมัก 3 วัน ซึ่งประโยชน์ของน้ำหมักชีวภาพสามารถใช้ในการบำบัดน้ำเสีย กำจัดกลิ่นเหม็นจากขยะมูลฝอย และใช้เพื่อฟื้นฟูพื้นที่รกร้างโดยการใช้จุลลินทรีย์ในการเร่งการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุในดินเพื่อให้ดินมีสภาพดี ซึ่งจำหน่ายในอัตราลิตรละ 5 บาท โดยนำรายได้เข้าสู่กองทุนกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหิดล

circular_graph_04_th.jpg
กราฟแสดงรายได้จากการจำหน่ายน้ำหมักชีวภาพ ปี พ.ศ. 2555-2565
การส่งต่อ “องค์ความรู้” สู่สังคม

มหาวิทยาลัยได้มีแนวคิดในการนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการดำเนินการต่างๆ มาให้บริการแก่ชุมชน เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม

พันธกิจสัมพันธ์ Eco Town มหิดลกับชุมชน

ในปี 2559 มหาวิทยาลัยนำร่องโครงการพันธกิจสัมพันธ์ Eco Town มหิดลกับชุมชน เพื่อนำองค์ความรู้ในการจัดตั้งและการบริหารจัดการธนาคารขยะรีไซเคิลถ่ายทอดแก่โรงเรียน และส่งเสริมการจัดตั้งโครงการธนาคารขยะรีไซเคิลในโรงเรียน พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องของการคัดแยกขยะให้แก่นักเรียน ครู รวมถึงผู้ปกครอง โดยสนับสนุน วัสดุอุปกรณ์ องค์ความรู้ โปรแกรมเก็บข้อมูลสมาชิก และให้คำปรึกษาและแนะนำในด้านการบริหารงานธนาคารขยะรีไซเคิลให้แก่ครูและนักเรียนที่ทำหน้าบริหารโครงการธนาคารขยะรีไซเคิลของโรงเรียน พร้อมกับการสาธิตและแนะแนวทางการดำเนินโครงการ ตลอดจนการให้ความร่วมมือเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติและเกิดความยั่งยืนในการดำเนินการ ด้วยมีเป้าหมายสำคัญในการปลูกฝังลักษณะนิสัยการคัดแยกขยะ และการออม ให้กับเด็กนักเรียนตั้งแต่เยาว์วัย โดยเริ่มนำร่องจัดตั้งโครงการให้กับโรงเรียนต้นแบบในระดับปฐมศึกษา

สร้างเสริมความรู้และความเข้าใจให้นักเรียน ครูและผู้ปกครอง ได้มีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะ และเกิดรายได้จากขยะที่ผ่านการคัดแยก เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชนและโรงเรียน ร่วมสร้างชุมชนคาร์บอนต่ำ ส่งเสริมให้เกิดพันธกิจสัมพันธ์ชุมชนโดยเริ่มจากโรงเรียน ครอบครัว และกระจายสู่สังคม ภายใต้โครงการ “พันธกิจสัมพันธ์ Eco Town มหิดลกับชุมชน” และสอดคล้องตามแนวนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย ทำให้โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมที่ดีเหมาะสมต่อการเรียนการสอน และเกิดเครือข่ายต้นแบบ

การทำงานด้านพันธกิจสัมพันธ์กับชุมชน ระหว่างสถาบันการศึกษาและขยายตัวสู่ชุมชน โดยมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ ดังนี้

เครือข่ายจังหวัดนครปฐม จำนวน 8 โรงเรียน

1. โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ มหามงคล

2. โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม

3. โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล

4. โรงเรียนมัธยมวัดปุรณาวาส

5. โรงเรียนวัดทรงคนอง

6. โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา

7. โรงเรียนวัดสุวรรณาราม

8. โรงเรียนวัดมะเกลือ

จากการดำเนินโครงการเครือข่ายธนาคารขยะรีไซเคิลภายในโรงเรียนโดยรอบมหาวิทยาลัยมหิดล ทำให้เกิดความร่วมมือกับภาครัฐในการโดยได้จัดทำ ข้อตกลงความร่วมมือในการบริหารจัดการขยะอย่างยั่งยืนสู่โรงเรียนและชุมชน ระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดลกับจังหวัดนครปฐม เพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้มีระบบการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการอบรมชี้แจงให้โรงเรียน กว่า 170 โรงเรียน ในจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีพิธีลงนามความร่วมมือและงานเสวนา “การบริหารจัดการขยะอย่างยั่งยืนสู่โรงเรียนและชุมชน” จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และมีพิธีมอบเกียรติบัตรแก่โรงเรียนเครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการธนาคารขยะกับมหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 800 ท่านเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2562 ณ มหิดลสิทธาคาร

ธนาคาร ทิ้ง-ไซเคิล (THINK CYCLE BANK)

“ทิ้งแบบหมุนเวียน......เพื่อเปลี่ยนโลก”

ขยายผลไปยังโรงเรียนในชุมชนอื่น โดยบริษัท พีทีที โกบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการนำแนวคิดและแนวปฏิบัติของโปรแกรมธนาคารขยะรีไซเคิล ไปขยายผลต่อกับโรงเรียนที่ตั้งอยู่ภายในจังหวัดระยอง โดยใช้ชื่อโครงการ “Think Cycle Bank” เพื่อการดำเนินโครงการธนาคารขยะรีไซเคิล ซึ่งเป็นแนวนโยบายของรัฐบาล ในเรื่องของการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย ที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือผลักดันให้เกิดแนวปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน

เพื่อเปลี่ยนขยะให้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วยระบบธนาคารขยะรีไซเคิลออนไลน์ แก้ปัญหาขยะตั้งแต่ต้นทาง ปลูกจิตสำนึกการคัดแยกขยะและนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ตามหลัก Circular Economy พร้อมสร้างเครือข่ายการจัดการขยะจากระดับครัวเรือนสู่ระดับจังหวัดในพื้นที่จังหวัดระยอง โดยมีโรงเรียนเครือข่าย 22 โรงเรียน

เครือข่ายจังหวัดระยอง จำนวน 22 โรงเรียน

1. โรงเรียนเกาะแก้วพิศดาร

2. โรงเรียนเทศบาล 1

3. โรงเรียนเทศบาล 2

4. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบบ้านเพ

5. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดเขาสำเภาทอง

6. โรงเรียนวัดชากลูกหญ้า

7. โรงเรียนวัดมาบชลูด

8. โรงเรียนบ้านหนองแฟบ

9. โรงเรียนวัดตากวน

10. โรงเรียนวัดโขดหินมิตรภาพที่ 42

11. โรงเรียนระยองวิทยาคม นิคมอุตสาหกรรม

12. โรงเรียนวัดมาบข่า

13. โรงเรียนวัดเขาสำเภาทอง

14. โรงเรียนบ้านหนองสะพาน

15. โรงเรียนชุมชนวัดทับมา

16. โรงเรียนวัดห้วยโป่ง

17. โรงเรียนวัดเนินกระปรอก

18. โรงเรียนวัดประชุมมิตรบำรุง

19. โรงเรียนวัดบ้านฉาง

20. โรงเรียนบ้านเขาห้วยมะหาด

21. โรงเรียนบ้านพยูน

22. โรงเรียนบ้านเขาซก อำเภอหนองใหญ่

เครือข่ายจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 3 โรงเรียน

1. โรงเรียนเทศบาล 1

2. โรงเรียนเทศบาล 2

3. โรงเรียนเทศบาล 3

ตลอดระยะเวลาของการดำเนินโครงการที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหิดลยังได้ดำเนินการลงพื้นที่ในการตรวจเยี่ยม แก้ไขปัญหาให้กับโรงเรียนต่าง ๆ

การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ข้อ 12 Responsible Consumption and Production เป็นโครงการด้านการใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า การจัดการขยะ

ห้องเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
Sufficiency Economy Philosophy learning room

เป็นการทำนิทรรศการถาวรที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับการนำแนวคิดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์เข้ากับบริบทของมหาวิทยาลัย จัดแสดง ณ อาคารอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยภายในอาคารเป็นส่วนของนิทรรศการแยกออกเป็น 3 Zone คือ

learning-room-01
learning-room-02

Zone 1 : ความพอประมาณ บอกเล่าเรื่องราวแนวความคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการทำโคก-หนอง-นา โมเดล

learning-room-03
learning-room-04

Zone 2 : มีเหตุผล
บอกเล่าเรื่องราวการประยุกต์ใช้หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงในรูปแบบของการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยยั่งยืน (SDGs in Campus) ผ่านสื่อวีดีทัศน์ เช่นการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ พลังงานสะอาด การจัดการพื้นที่สีเขียว

learning-room-05
learning-room-06
learning-room-07
learning-room-08

Zone 3 : มีภูมิคุ้มกันที่ดี
คือการสร้างความรู้ความเข้าใจและปลูกฝังความรู้ให้กับเด็กนักเรียนผ่านสื่อ Interactive ที่สามารถสัมผัส และดึงดูดการเรียนรู้ได้ง่าย เช่น การคัดแยกขยะ และ 5R และโดยรอบอาคารจะเป็นพื้นที่สาธิตในการดำเนินการต่าง ๆ เช่น การทำปุ๋ยหมัก ธนาคารขยะรีไซเคิล แปลงผัก เป็นต้น ซึ่งเชื่อมโยงกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง

learning-room-09
learning-room-10

และโดยรอบอาคารจะเป็นพื้นที่สาธิตในการดำเนินการต่าง ๆ เช่น การทำปุ๋ยหมัก ธนาคารขยะรีไซเคิล แปลงผัก เป็นต้น ซึ่งเชื่อมโยงกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง