Waste

การบริหารจัดการขยะภายในมหาวิทยาลัยมหิดล

มหาวิทยาลัยมหิดลได้กำหนดนโยบายและมาตรการบริหารจัดการขยะ โดยกำหนดขอบเขตการจัดการขยะ ออกเป็น 5 ประเภทหลัก คือ ขยะทั่วไป ขยะอินทรีย์ ขยะรีไซเคิล ขยะอันตราย และขยะติดเชื้อ ให้ครอบคลุมทั้งในพื้นที่ของส่วนกลางและพื้นที่ของส่วนงาน เพื่อให้มหาวิทยาลัยเกิดระบบการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพและมีสภาพแวดล้อมที่ดีสอดคล้องตามเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ต่อไป

ปริมาณกากของเสียที่เกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยมหิดล
1. ขยะทั่วไป

ขยะทั่วไป คือ ขยะหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่มีคุณสมบัติย่อยสลายได้ยาก นำไปรีไซเคิลไม่ได้ ไม่คุ้มค่าต่อการนำไปรีไซเคิลหรือนํากลับมาใช้ใหม่ เช่น ซองขนม ซองเครื่องปรุง ถุงพลาสติกเปื้อน กล่องโฟม ถุง/กระดาษเปื้อนเศษอาหาร เป็นต้น โดยมหาวิทยาลัยใช้คำว่า “ขยะฝังกลบ” เป็นการสร้างความตระหนักและสร้างพฤติกรรมในการคัดแยกขยะ เพื่อลดขยะที่จะถูกส่งไปหลุมฝังกลบ (Landfill) ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยจัดให้มีจุดทิ้งขยะตั้งอยู่โดยรอบครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งมหาวิทยาลัย และจัดให้มีจุดพักขยะในพื้นที่ส่วนกลาง จำนวน 6 จุด เพื่อเป็นจุดรวบรวมขยะจากอาคารหรือส่วนงาน ไม่ให้เกิดการสะสมของปริมาณขยะมากเกินไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำชะขยะหรือสัตว์นำโรค มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการเก็บรวบรวมทุกวันในช่วงเช้า โดยเทศบาลตำบลศาลายาจะเป็นผู้รับผิดชอบในการขนย้ายไปยังหลุมฝังกลบขยะหรือจุดกำจัดต่อไป

waste-general

มหาวิทยาลัยมหิดลมีนโยบายลดขยะไปยังหลุมฝังกลบ โดยมีการส่งเสริมให้คัดแยกขยะกำพร้า ซึ่งคือวัสดุที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ เช่น โฟมกันกระแทก บับเบิ้ลห่อสินค้า ซองขนมที่สะอาด ฟอยล์ห่อขนม กล่องหรือแก้วพลาสติก (แบบอ่อน) เสื้อผ้า หมวก รองเท้า แปรงสีฟัน หมอน ผ้าห่ม ลูกฟุตบอล ลูกเทนนิส บัตรพลาสติก ยาเม็ดหมดอายุ ยางรถยนต์ แฟ้มเอกสาร (ไม่มีโลหะ) ปากกา แผ่นรองเมาส์ เป็นต้น โดยมหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมรวบรวมขยะกำพร้าเดือนละ 1 ครั้ง ในช่วงสิ้นเดือน ณ อาคารอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยขยะกำพร้าที่มหาวิทยาลัยรวบรวมได้จะส่งให้บริษัทที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการนำไปใช้ประโยชน์เป็นพลังงานเชื้อเพลิงต่อไป

2. ขยะรีไซเคิล

ขยะรีไซเคิล คือ วัสดุเหลือใช้ที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้ เช่น กระดาษ แก้ว พลาสติก กล่องเครื่องดื่ม กระป๋องเครื่องดื่ม เศษโลหะ เป็นต้น โดยมหาวิทยาลัยได้จัดเตรียมถังขยะรีไซเคิลครอบคลุมพื้นที่การใช้งาน ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมหิดลได้ส่งเสริมการคัดแยกขยะรีไซเคิลอย่างเป็นระบบ ผ่านการรับซื้อขยะภายใต้โครงการธนาคารขยะรีไซเคิล ซึ่งนักศึกษา บุคลากร และบุคคลภายนอก สามารถเข้าร่วมโครงการโดยสมัครสมาชิกและนำขยะมาฝาก (ขาย)

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยส่งเสริมให้มีการคัดแยกขยะรีไซเคิลเฉพาะอีก 2 ประเภท ได้แก่ ขวดพลาสติก และกระดาษ เนื่องจากภายในมหาวิทยาลัยมีสำนักงานที่ทำงานเกี่ยวกับเอกสารเป็นจำนวนมาก จึงมีการคัดแยกกระดาษเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ สำหรับขวดพลาสติกจากการบริโภคเครื่องดื่ม มหาวิทยาลัยส่งเสริมให้มีการทำความสะอาดและคัดแยกเฉพาะเพื่อให้สะดวกต่อการนำไปรีไซเคิลหรือนำไปทำประโยชน์อื่น ๆ เช่น การนำไปผลิตเป็นเสื้อ Upcycling เป็นต้น

waste-recycle-img-group
recyclable-waste-chart-th
ธนาคารขยะรีไซเคิล

ธนาคารขยะรีไซเคิล เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2552 เพื่อรณรงค์ให้หน่วยงาน นักศึกษา บุคลากร ปรับแนวคิดเกี่ยวกับขยะและเปลี่ยนพฤติกรรมให้เกิดการคัดแยกขยะมากขึ้น ซึ่งมีการทำงานคล้ายคลึงกับธนาคารพาณิชย์ทั่วไป โดยรับฝากขยะรีไซเคิลและถอนเป็นเงินสดหรือฝากสะสมไว้กับธนาคารขยะรีไซเคิล และมีโปรแกรมในการบันทึกข้อมูลปริมาณขยะและยอดเงิน พร้อมบันทึกลงสมุดคู่ฝากให้สมาชิก โดยราคารับซื้อขยะรีไซเคิลจะมีการประกาศอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์ของกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม และปรับราคาตามท้องตลาดทุกสามเดือน ทั้งนี้การเป็นสมาชิกธนาคารขยะรีไซเคิลสามารถสามารถเป็นได้ทุกคน ทั้งนักศึกษา บุคลากรและบุคคลภายนอก โดยใช้บัตรประชาชน ในการสมัครสมาชิก


adjust-to-change

ปัจจุบันมีสมาชิกที่ธนาคารขยะรีไซเคิลมากกว่า 2,500 คน และสมาชิกทั่วไป 5,000 คน ซึ่งมียอดรวมปริมาณขยะรีไซเคิลมากกว่า 2,900 ตัน คิดเป็นยอดรวมการรับซื้อขยะรีไซเคิลมากกว่า 16 ล้านบาท โดยผลกำไร 10% จากการจำหน่ายขยะรีไซเคิลจะนำฝากเข้ากองทุนกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหิดล

การดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องมามากกว่า 10 ปี ช่วยให้สามารถนำขยะรีไซเคิลกลับมาใช้ประโยชน์ มากกว่า 2,900 ตัน ลดภาระการบริหารจัดการขยะของภาครัฐ

สมัครสมาชิก และรับฝาก-ถอน ธนาคารขยะรีไซเคิล

อาคารอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม : ทุกวันทำการ เวลา 08.00 – 15.30 น.

อาคารสิ่งแวดล้อมพัฒนดล : เฉพาะวันพฤหัสบดี เวลา 08.30 – 11.30 น.
recycled-waste-th
กราฟแสดงปริมาณขยะรีไซเคิล ปี พ.ศ. 2557-2568
garbage-deposit-th
กราฟแสดงยอดรับฝากขยะรีไซเคิลปี พ.ศ. 2557-2568
3. ขยะอินทรีย์

ขยะอินทรีย์ คือ ของเสียที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เช่น เศษอาหาร เศษกิ่งไม้ เศษใบไม้ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพและนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้ มหาวิทยาลัยนำขยะเศษอาหารและขยะเศษกิ่งไม้-ใบไม้ มาบดย่อยและหมักเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ชีวภาพ คือ วัตถุอินทรีย์บำรุงดิน หรือ “ฮิวมัส ศาลายา”

เศษอาหารจากโรงอาหารและจากถังขยะรับเศษอาหารภายในอาคาร จะมีการรวบรวมมาหมักรวมกับจุลินทรีย์และกากมะพร้าวสับในเครื่องหมักเศษอาหาร 24 ชั่วโมง จากนั้นจะนำออกจากเครื่องมาใส่กระสอบทิ้งไว้ 30 วัน ก่อนนำไปใช้เป็นวัตถุอินทรีย์บำรุงดินในการบำรุงรักษาพื้นที่สีเขียวในมหาวิทยาลัย

เศษกิ่งไม้ เศษใบไม้ จะใช้วิธีการบดย่อยให้มีขนาดเล็ก เพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการหมักแบบกลับกองประมาณ 1 เดือน จากนั้นนำออกมาตากแดดให้แห้งก่อนนำมาบดละเอียด พักทิ้งไว้ 3 วันแล้วจึงนำไปใช้งานหรือบรรจุถุงต่อไป

การจัดการขยะอินทรีย์ภายในมหาวิทยาลัยนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะไปหลุมฝังกลบและลดการเผาทำลายแล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างมูลค่าจากของเสียที่เกิดขึ้น สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ทำให้ลดต้นทุนการบำรุงรักษาพื้นที่สีเขียว และสร้างรายได้ให้มหาวิทยาลัย

waste-organic-img-group

organic-waste-bar-chart-th
การผลิตฮิวมัส (อินทรีย์วัตถุบำรุงดิน) ด้วยระบบกองเติมอากาศ

การผลิตฮิวมัส (อินทรียวัตถุบำรุงดิน) เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 โดยนำเศษกิ่งไม้ ใบไม้ จากหน่วยงานและพื้นที่ส่วนกลางของมหาวิทยาลัยกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ลดการเผาทำลาย
ลดต้นทุนการดูแลรักษาสภาพแวดล้อม

ขั้นตอนการผลิตฮิวมัส เริ่มจากการบดย่อยเศษกิ่งไม้ ใบไม้ แล้วนำไปขึ้นกองและผสมมูลวัว โดยใช้ระยะเวลาในการหมัก 30-45 วัน จากนั้นนำออกตากแดดให้แห้ง ก่อนนำมาบดย่อยให้มีขนาดเล็กอีกครั้ง แล้วพักให้จุลินทรีย์สงบประมาณ 3 วัน ก่อนนำไปใช้หรือประจุถุงเพื่อจำหน่าย ตลอดระยะเวลาการดำเนินการตั้งแต่ปี 2551 – ปัจจุบัน สามารถผลิตปุ๋ยหมักได้มากกว่า 409 ตัน
คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.8 ล้านบาท และเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้ามาศึกษาดูงานจำนวนมาก


ปัจจุบันมีฮิวมัสที่จำหน่ายมี 2 ชนิด ได้แก่

1.ชนิดผง

  • 1. แบบไม่บรรจุถุง ราคากิโลกรัมละ 7 บาท

  • 2. แบบบรรจุถุง ราคากิโลกรัมละ 8 บาท

2.ชนิดเม็ด

  • 1. แบบไม่บรรจุถุง ราคากิโลกรัมละ 30 บาท

  • 2. แบบบรรจุถุง ราคากิโลกรัมละ 30 บาท

Humus-Produced-bar-chart-th
Humus-sale-bar-chart-th
การผลิตน้ำหมักชีวภาพ

การผลิตน้ำหมักชีวภาพ เริ่มขึ้น ในปี 2552 ณ อาคารอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยนำหัวเชื้อบริสุทธิ์ EM (Effective Microorganisms) มาผสมกับกากน้ำตาล และใช้เวลาในการหมัก 3 วัน ซึ่งประโยชน์ของน้ำหมักชีวภาพสามารถใช้ในการบำบัดน้ำเสีย กำจัดกลิ่นเหม็นจากขยะมูลฝอย และใช้เพื่อฟื้นฟูพื้นที่รกร้างโดยการใช้จุลลินทรีย์ในการเร่งการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุในดินเพื่อให้ดินมีสภาพดี ซึ่งจำหน่ายในอัตราลิตรละ 5 บาท ตลอดระยะเวลาการดำเนินการถึงปัจจุบัน มียอดจำหน่ายกว่า 93,000 บาท โดยนำรายได้เข้าสู่กองทุนกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

humus-income-th
กราฟแสดงรายได้จากการจำหน่ายน้ำหมักชีวภาพ ปี พ.ศ. 2557-2568
4. ขยะอันตรายชุมชน

ขยะอันตรายชุมชน คือ วัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ผลิตภัณฑ์เสื่อมสภาพ หรือขยะจากจากที่อยู่อาศัย สถานที่ราชการ สถานศึกษา หรือสถานที่อื่นในชุมชน ที่มีองค์ประกอบหรือปนเปื้อนวัตถุหรือสารอันตรายที่มีลักษณะเป็นสารพิษ สารไวไฟ สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน สารกัมมันตรังสี และสารที่ทำให้เกิดโรค (จากสารเคมี) ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันในมหาวิทยาลัยมีของเสียอันตรายจากชุมชน เช่น ถ่านไฟฉาย หลอดฟลูออเรสเซนต์ กระป๋องสี กระป๋องสเปรย์ เป็นต้น ซึ่งอาจเกิดอันตรายหรือปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมได้ทั้งในระหว่างขั้นตอนการจัดเก็บ การขนส่ง และการกำจัด โดยมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการคัดแยกของเสียอันตรายจากชุมชนออกจากขยะมูลฝอยประเภทอื่นๆ และส่งให้บริษัทที่ได้รับอนุญาตนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีตามมาตรฐานสากล

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยจัดให้มีถังคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติม เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต โน๊ตบุ๊ค คีย์บอร์ด หูฟัง เครื่องคิดเลข เป็นต้น เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากตามเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งขยะอิเล็กทรอนิกส์สามารถนำไปแยกชิ้นส่วนหรือองค์ประกอบเพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้บางส่วน และส่วนที่เหลือก็สามารถนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีตามมาตรฐานสากล

waste-hazardous-img-group-th
5. ขยะมูลฝอยติดเชื้อ

ขยะติดเชื้อ คือ มูลฝอยที่มีเชื้อโรคปะปนอยู่ในปริมาณหรือความเข้มข้นซึ่งหากมีการสัมผัสหรือใกล้ชิดกับมูลฝอยนั้นแล้วสามารถทำให้เกิดโรคได้ โดยมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ได้กำหนดให้ถุงขยะติดเชื้อเป็นถุงขยะสีแดงพร้อมติดป้ายหรือสัญลักษณ์อย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานต้องสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง เป็นต้น ในการรวบรวมขยะติดเชื้อต้องซ้อนถุงขยะ 2 ชั้น มัดปากถุงขยะแต่ละชั้นให้แน่นหนา พร้อมฆ่าเชื้อโรคทุกชั้นก่อนนำส่งที่จุดพักขยะติดเชื้อที่กำหนดทุกวันพฤหัสบดี เพื่อส่งให้บริษัทที่ได้รับอนุญาตนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีตามมาตรฐานสากล

waste-infectious