คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2500 เป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียนที่ผลิตบัณฑิตสาขาเทคนิคการแพทย์และรังสีเทคนิค ทั้งระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา ซึ่งเป็นองค์กรระดับอุดมศึกษาในกำกับของรัฐที่ดำเนินการโดยไม่มุ่งหวังกำไร โดยคณะฯ ได้รับการยอมรับในฐานะสถาบันชั้นนำที่มีความเป็นเลิศทางการศึกษา การวิจัย บริการวิชาการ และบริการสุขภาพ
จากความเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 โดยนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปและการพัฒนาระบบบริการทางสุขภาพที่มุ่งเน้นการป้องกันการเจ็บป่วย ส่งเสริมป้องกันโรคในแต่ละกลุ่มวัยตลอดช่วงชีวิต โดยเฉพาะการธำรงศักยภาพและคุณค่าในตัวเอง ซึ่งสอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) และ (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (พ.ศ.2566 - 2570) มุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของประเทศไทยในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ที่มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อพัฒนาคนให้มีความรู้ในทุกมิติและทุกช่วงวัย และยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนทั้งในมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อม และจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระดับโลกที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ จึงมีการกำหนดทิศทางการพัฒนาของหลายประเทศทั่วโลกในด้านต่างๆ เช่น พฤติกรรมในการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันโดยการสร้างความตระหนักในการดูแลสุขภาพ การนำเทคโนโลยีตรวจวัดสุขภาพเพื่อสนับสนุนให้เกิดการสื่อสารผ่านระบบออนไลน์ของการให้บริการด้านสุขภาพ โดยใช้องค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำในการก้าวข้ามข้อจำกัดและความท้าทายต่อเศรษฐกิจได้ สู่พัฒนาประเทศที่ยั่งยืนได้
คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพของประชาชนไทยทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักศึกษาและกลุ่มวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มวัยที่มีความสำคัญของการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศผ่านการสร้างเสริมสุขภาวะแบบองค์รวม (Holistic Health) ซึ่งเป็นแนวทางที่นำเอาหลักคิดขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ในการสร้างสมดุล (balancing) และให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงองค์ประกอบในมิติต่างๆ เหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อการมีสุขภาวะที่ดี (Well-being) การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมจึงมุ่งเน้นที่การป้องกัน (Preventive healing) มากกว่าการรักษา (Curative healing) หรือ “สร้าง นำ ซ่อม” ซึ่งเป็นหลักสร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืน ในการนี้หากประชาชนสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพและปรับสมดุลในมิติเชิงสุขภาวะให้ดีได้ จะเป็นการปรับเปลี่ยนกระบวนการจัดการทางสุขภาพจากเชิงรับมาเป็นแบบเชิงรุกด้วยตนเอง ซึ่งทำให้กระบวนการดูแลสร้างเสริมสุขภาพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน แนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขที่ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปและการพัฒนาระบบบริการทางสุขภาพที่มุ่งเน้นการป้องกันการเจ็บป่วย การส่งเสริมป้องกันโรคในแต่ละกลุ่มวัยตลอดช่วงชีวิต โดยเฉพาะการธำรงศักยภาพและคุณค่าในตัวเอง ซึ่งสอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) และกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ภายใต้กรอบแนวคิดพลิกโฉมประเทศไทยสู่ “เศรษฐกิจสร้างคุณค่า สังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืน (Hi-Value and Sustainable Thailand)” คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีความมุ่งมั่นในการดูแลชุมชนเชิงพื้นที่โดยรอบของมหาวิทยาลัย ผ่านบริบทนักเทคนิคการแพทย์ในการส่งเสริมการดูแลสุขภาพของประชาชนทุกช่วงวัยเพื่อยกระดับสุขภาวะของชุมชนที่ยั่งยืน
โครงการนี้จึงมุ่งหวังในการสร้างเสริมสุขภาวะดีแบบองค์รวมให้กับประชาชนในพื้นที่ชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย รวมทั้งส่งเสริมความผาสุกของสังคมโดยสร้างการรับรู้ในบริบทของนักเทคนิคการแพทย์ผ่านการประชาสัมพันธ์วิชาชีพทั้งเทคนิคการแพทย์และรังสีเทคนิค แนะนำหลักสูตรการศึกษาและเผยแพร่องค์ความรู้จากผลงานวิจัยนวัตกรรมจากฝีมือนักวิจัยไทย
ในการจัดงานได้บริการตรวจสุขภาพฟรี โดยให้บริการตรวจวัดระดับน้ำตาลปลายนิ้ว ประเมินองค์ประกอบร่างกายและให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพ พร้อมกันนนี้ยังมีการแนะนำหลักสูตรเทคนิคการแพทย์ และหลักสูตรรังสีเทคนิคของคณะเทคนิคการแพทย์ให้กับบุคคลที่สนใจศึกษาต่อ