โครงการปฐมวัยสาธิต

detail

โครงการปฐมวัยสาธิต รูปแบบการส่งเสริมประสบการณ์บูรณาการกิจกรรมการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย เพื่อเตรียมความพร้อมและส่งเสริมศักยภาพเด็กปฐมวัย ทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม จิตใจ และกระบวนการรู้คิด

    สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว เป็นสถาบันที่รวบรวมและเผยแพร่องค์ความรู้ด้านเด็กและครอบครัว เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ และมีศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย เป็นศูนย์สาธิตการรับเลี้ยงและการเตรียมความพร้อมเด็กปฐมวัย  พัฒนารูปแบบการจัดบริการการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยประยุกต์ความรู้ทั้งทางวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็กปฐมวัย สร้างรูปแบบส่งเสริมพัฒนาการและจัดประสบการณ์ที่เอื้อต่อพัฒนาการเด็กปฐมวัย เพื่อเตรียมความพร้อมและส่งเสริมศักยภาพเด็ก ทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม จิตใจ และกระบวนการรู้คิด

 

       "โครงการปฐมวัยสาธิต" เปิดให้บริการการดูแลเด็กปฐมวัยตั้งแต่อายุ 1 ปี 3 เดือน ถึง 2 ปี 11 เดือน ใช้รูปแบบการส่งเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย ตามแนวคิดกิจกรรมอายตนะ 6  เป็นกิจกรรมที่ออกแบบบนพื้นฐานพัฒนาการและการทำงานของสมอง (Brain-based Learning) เรียนรู้ด้วยการเล่นแบบต่างผ่านประสาทรับรู้ทั้ง 6 ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เพื่อส่งเสริมประสบการณ์การรับรู้ของเด็กในช่วงที่สมองสามารถได้รับการพัฒนาอย่างสูงสุด และส่งเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย โดยพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนการสอนให้สอนในเรื่องของจิตใจ โดยใช้คุณสมบัติทางจิตใจ 10 ประการ (ความหนักแน่น การให้ ความอดทนอดกลั้น การทำความดี ความซื่อตรง ความอ่อนโยน ความเพียร ความไม่โกรธ การไม่เบียดเบียน การละวาง) เป็นพื้นฐานสู่การพัฒนาตนเองในการอยู่โดยร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเป็นสุข และมุ่งเน้นการส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยการใช้ธรรมชาติเป็นฐาน (Nature Based) และการเรียนรู้นอกห้องเรียน (Outdoor Learning) คุณครูผู้ดูแลเด็กบูรณาการกิจกรรมการส่งเสริมพัฒนาการตามวัยอย่างเต็มตามศักยภาพ ส่งเสริมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับทักษะในอนาคต นอกจากนี้ โครงการปฐมวัยสาธิต ยังเป็นฐานฝึก การเก็บชั่วโมงฝึกภาคปฏิบัติ ของผู้เรียนในหลักสูตรผู้ดูแลเด็กในศตวรรษที่ 21 เพื่อให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์การดูแลเด็กปฐมวัยอย่างรอบด้าน และพัฒนาทักษะของผู้ดูแลเด็กอย่างเต็มศักยภาพ มีประสิทธิผลสูงสุด


 


       

       นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการ “ห้องนมแม่ Breastfeeding Room” ให้แก่คุณแม่และลูกน้อย ณ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา ด้วยนมแม่นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาเด็ก โดยอ้างอิงจากงานวิจัยทั่วโลกที่อธิบายว่าน้ำนมแม่มีผลต่อพัฒนาการทางสมองและการเรียนรู้ การเจริญเติบโต และที่สำคัญมีผลต่อการสร้างอารมณ์ ความผูกพันธ์ของแม่กับลูกตั้งแต่แรกเกิด ด้วยความสำคัญนี้ทุกประเทศทั่วโลกจึงตกลงร่วมกันและมีนโยบายขั้นต่ำที่ชัดเจนว่าทุกประเทศต้องส่งเสริมการให้นมแม่อย่างเดียวต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน (Exclusive Breastfeeding) ประเทศที่ผลักดันนโยบายนี้จนประสบความสำเร็จคือกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว เช่น กลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกและแถบสแกนดิเนเวีย กลุ่มประเทศเหล่านี้สนับสนุนการให้นมแม่ต่อเนื่องตลอด 6 เดือน มากกว่าร้อยละ 90 ในทางกลับกันกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุดและกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นให้นมแม่ต่อเนื่องตลอด 6 เดือน น้อยกว่าร้อยละ 20 เมื่อศึกษาอย่างลึกซึ้งพบว่าความรู้ทางวิชาการทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ในทางปฏิบัติโครงสร้างของหน่วยงานหรือองค์กรไม่ได้ให้การสนับสนุนมากนักและสิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดคือวิถีชีวิตของการทำงานของตัวแม่เอง เช่น การทำงานภาคโรงงานอุตสาหกรรม การค้า หรือภาคเกษตรกรรมที่ทำให้การให้นมแม่ต่อเนื่องตลอด 6 เดือนแรกไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งโครงการห้องนมแม่ในที่ทำงาน มุ่งแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น

      “ห้องนมแม่ Breastfeeding Room” ทางสถาบันฯ ตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวอย่างว่าทุกองค์กรไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ควรสนับสนุนให้บุคลากรที่เป็นคุณแม่มีโอกาสที่จะมาให้นมหรือเตรียมนมให้ลูกน้อยได้ นอกจากนี้ทางสถาบันฯ ยังได้เปิดโอกาสให้บุคลากรที่เป็นคุณแม่ของส่วนงานต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เข้าอบรม สามารถที่จะเข้ามาใช้พื้นที่ตรงนี้ได้เพื่อมาเตรียมนมให้กับลูก รวมทั้งใช้เป็นพื้นที่ดูงานเพื่อกลับไปเป็นผู้ตระหนักในเรื่องการสนับสนุนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แล้วไปผลักดันเป็นนโยบายของหน่วยงานตนเอง ตลอดจนเพื่อการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health and Well-Being) ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป (SDGs)

   

Partners/Stakeholders

-

ผู้ดำเนินการหลัก
ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย
ส่วนงานหลัก