เติมเต็มสุขภาวะผู้ใช้แรงงาน จัดอบรมออนไลน์ตรวจสมรรถภาพการได้ยิน ในงานอาชีวอนามัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

detail

เติมเต็มสุขภาวะผู้ใช้แรงงาน จัดอบรมออนไลน์ตรวจสมรรถภาพการได้ยิน ในงานอาชีวอนามัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

เติมเต็มสุขภาวะผู้ใช้แรงงาน จัดอบรมออนไลน์ตรวจสมรรถภาพการได้ยิน ในงานอาชีวอนามัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

                องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้กำหนดให้เสียงที่ดังเกิน 85 dBA (เดซิเบลเอ) เป็นเสียงที่เป็นอันตราย จึงกลายเป็นที่มาของข้อกำหนด เพื่อสุขภาวะของผู้ใช้แรงงานทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน(SDGs) แห่งสหประชาชาติ ข้อที่ 3 ที่ว่าด้วยเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งครอบคลุมเรื่องการลดการป่วยจากมลพิษต่าง ๆ

                รองศาสตราจารย์ ดร.อรวรรณ แก้วบุญชู รองคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ และอาจารย์ประจำภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้สอนหลักรายวิชาออนไลน์ "การตรวจสมรรถภาพการได้ยินในงานอาชีวอนามัย” ซึ่งเปิดให้ผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ พยาบาลอาชีวอนามัย และเจ้าหน้าที่สุขภาพจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ เข้ารับการอบรมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่าน MUx โดยได้กล่าวถึงประเด็นที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องสุขภาวะแรงงานไทยว่าแม้กฎหมายแรงงานไทย ได้กำหนดให้นายจ้างจัดให้มีการเฝ้าระวังการได้ยิน โดยให้ดำเนินการทดสอบสมรรถภาพการได้ยินแก่ลูกจ้างอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง แต่พบว่ายังไม่ได้มีการกำหนดมาตรฐานคุณสมบัติของผู้ทดสอบแต่อย่างใด

                มหาวิทยาลัยมหิดล โดย คณะสาธารณสุขศาสตร์ ถือเป็นภารกิจสำคัญในการริเริ่มจัดอบรมออนไลน์ที่ได้มาตรฐานในเรื่องดังกล่าว โดยเชื่อมั่นว่าจากประสบการณ์ และผลงานด้านการส่งเสริมสุขภาวะเพื่อปวงชนชาวไทยของคณะฯ ตลอดเวลากว่า 7 ทศวรรษ จะสามารถมอบองค์ความรู้ที่ประชาชนสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด นอกจากนี้ หวังให้นายจ้างนำไปใช้เพื่อการวางแผนสุขภาพให้เกิดความยั่งยืนต่อไปอีกด้วย เนื่องจากเสียงที่ดังเกิน 85 dBA อาจก่อให้เกิดอันตรายกฎหมายจึงได้กำหนดให้ต้องควบคุมระดับเสียง ไม่ให้มีการทำงานในที่มีเสียงดังเกิน 85 dBA ต่อเนื่องกันเกิน 8 ชั่วโมง และต้องจัดให้ลูกจ้างสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเพื่อลดเสียงให้อยู่ในระดับที่ไม่เกินมาตรฐาน

                รองศาสตราจารย์ ดร.อรวรรณ แก้วบุญชู กล่าวว่า อุปกรณ์ที่ใช้เพื่อการลดเสียงเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยพบว่า อุปกรณ์ลดเสียงแบบ Earplugs ที่ใช้อุดหู สามารถลดเสียงได้ประมาณ15 dBA และแบบ Earmuffs ที่ครอบหู สามารถลดเสียงได้ถึง 30 dBA นอกจากการป้องกันที่ตัวบุคคลแล้ว ยังควรคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ที่มาหรือแหล่งกำเนิด" ของเสียงดังที่เกิดขึ้น โดยอาจมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อทำให้เกิดเสียงดังลดลง จัดหาวัสดุป้องกันเสียงมาปิดล้อมเครื่องจักร สร้างห้องเก็บเสียง หรือผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเวลาให้ลูกจ้างต้องเผชิญกับเสียงดังได้น้อยลง ฯลฯ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และลักษณะของการทำงานแต่ละประเภทที่แตกต่างกันด้วย

                จุดเด่นของรายวิชาออนไลน์ "การตรวจสมรรถภาพการได้ยินในงานอาชีวอนามัย" นอกจากการเปิดอบรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแล้ว ยังได้ออกแบบให้มีครบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งในภาคทฤษฎีนั้น ได้มีการสาธิตให้ผู้เรียนสามารถฝึกปฏิบัติตามได้โดยง่าย และหลังจากจบบทเรียนทั้งหมดแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ส่งคลิปการฝึกปฏิบัติกลับมาให้ผู้สอนประเมิน และสามารถรับประกาศนียบัตร E-Certificate เมื่อผ่านเกณฑ์ที่กำหนดอีกด้วย

                ปัญหาเสียงดังที่เกินมาตรฐาน นอกจากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว ยังถือเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทุกคนควรใส่ใจดูแล ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดที่นายจ้างจะมอบให้ลูกจ้างได้ ไม่ใช่เพียงค่าตอบแทนแรงงานในอัตราสูง แต่คือการสร้างสภาวะแวดล้อมที่ดี เพื่อสุขภาวะที่ดี ซึ่งสิ่งที่ได้นอกจากผลประกอบการที่ดี แต่คือโลกของการทำงานที่ปลอดภัย และสร้างสุขร่วมกัน ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างอย่างยั่งยืนได้ต่อไปอีกด้วย เปิดลงทะเบียนแล้วที่ http://mux.mahidol.ac.th

 

การอบรมออนไลน์ตรวจสมรรถภาพการได้ยิน ในงานอาชีวอนามัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ดังนี้

เป้าหมายที่ 3 สร้างหลักประกันว่าคนมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและส่งเสริมสวัสดิภาพสำหรับทุกคนในทุกวัย

ข้อย่อยที่ 3.d เสริมขีดความสามารถในการแจ้งเตือนล่วงหน้า การลดความเสี่ยง และการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสุขภาพ

เป้าหมายที่ 4 สร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต

ข้อย่อยที่ 4.4 เพิ่มจำนวนเยาวชนและผู้ใหญ่ที่มีทักษะที่จำเป็นรวมถึงทักษะทางเทคนิคและอาชีพสำหรับการจ้างงาน การมีงานที่ดีและการเป็นผู้ประกอบการที่ดีภายในปี 2573

เป้าหมายที่ 8 การพัฒนาที่ยั่งยืนงานที่ดีและเศรษฐกิจที่เติบโต ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน การจ้างงานที่มีคุณค่า และงานที่ดีสำหรับทุกคน

ข้อย่อยที่ 8.8 ปกป้องสิทธิแรงงาน และส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย และมั่นคงสำหรับผู้ทำงานทุกคนรวมถึงผู้ทำงานต่างด้าว โดยเฉพาะหญิง ต่างด้าวและผู้ที่ทำงานเสี่ยงอันตราย

เป้าหมายที่ 9  สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความทนทาน ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืน และส่งเสริมนวัตกรรม

ข้อย่อยที่ 9.1 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ ยั่งยืนและมีความทนทานซึ่งรวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน ภูมิภาคและที่ข้ามเขตแดนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ โดยมุ่งไปที่การเข้าถึงได้ในราคาที่สามารถจ่ายได้และเท่าเทียมสำหรับประชาชนทุกคน

Partners/Stakeholders

-

ผู้ดำเนินการหลัก
รองศาสตราจารย์ ดร.อรวรรณ แก้วบุญชู รองคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ และอาจารย์ประจำภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุข
ส่วนงานหลัก
ผู้ดำเนินการร่วม
อาจารย์ประจำภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุข