มรดกภูมิปัญญาจากคัมภีร์โอสถพระนารายณ์: ตำรับยาแผนโบราณสู่ยาแผนปัจจุบัน

detail

ตำรับยาแผนโบราณในคัมภีร์โอสถพระนารายณ์ เช่น ยาทาพระเส้น และ น้ำมันมหาจักร

Challenge

ตำรับยาแผนโบราณในคัมภีร์โอสถพระนารายณ์ เช่น ยาทาพระเส้น และ น้ำมันมหาจักร มีประวัติการใช้ยาวนาน แต่รูปแบบดั้งเดิมยังไม่ตอบโจทย์ประชาชนในปัจจุบัน เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านการเตรียม การเก็บรักษา และมาตรฐานคุณภาพ แม้ว่ายาทาพระเส้นจะมีงานวิจัยยืนยันฤทธิ์ต้านการอักเสบในหลอดทดลอง แต่ยังไม่มีข้อมูลปริมาณที่เหมาะสมสำหรับตำรับยาแผนปัจจุบัน ส่วนยาน้ำมันมหาจักรแม้จะมีข้อมูลด้านฤทธิ์และความปลอดภัยในสัตว์ทดลองแล้ว ก็ยังต้องมีการศึกษาทางคลินิกเพื่อยืนยันผลในผู้ป่วย

Action

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงตำรับยาทั้ง 2 ให้อยู่ในรูปแบบยาแผนปัจจุบันที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

ยาทาพระเส้น: พัฒนาในรูปแบบเจลและขี้ผึ้ง โดยเน้นให้บรรจุสารสกัดได้มากที่สุดและทดสอบความคงตัวทางกายภาพและจุลชีววิทยา ขณะเดียวกัน ยาทาพระเส้นได้ถูกบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ ด้านสมุนไพรแล้ว ถือเป็นโอกาสสำคัญในการต่อยอดสู่ ตำรับยามาตรฐานในระบบสุขภาพภาครัฐต่อไป

น้ำมันมหาจักร: พัฒนาเป็นยาเหน็บและขี้ผึ้ง สำหรับโรคริดสีดวงทวาร มีการกำหนดปริมาณที่ใช้ได้ผล การควบคุมคุณภาพด้วย HPLC และยืนยันความปลอดภัยในสัตว์ทดลอง แต่ยังต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมถึงประสิทธิภาพในผู้ป่วย

 

มรดกทางภูมิปัญญาจากสมัยสมเด็จพระนารายณ์

คัมภีร์โอสถพระนารายณ์ ถือเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญของภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ตำรับยาที่ถูกบันทึกไว้นั้นสะท้อนถึงความรู้ด้านสุขภาพและการดูแลร่างกายของคนไทยในอดีต ซึ่งสองตำรับที่โดดเด่นและยังคงถูกกล่าวถึงจนถึงปัจจุบัน คือ ยาทาพระเส้น และ ยาน้ำมันมหาจักร

  • ยาทาพระเส้น: ใช้ทาแก้เส้นผิดปกติ แก้ลมอัมพาต แก้ลมปัตฆาต แก้ตะคริว แก้ลมจับโปง และบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อต่าง ๆ
  • ยาน้ำมันมหาจักร: ใช้ภายนอก มีสรรพคุณหลากหลาย ได้แก่ แก้อักเสบและลมอื้อในช่องหู แก้ผิวหนังเปื่อยคัน รักษาริดสีดวง ทาถูนวดแก้เมื่อยขบ ใส่บาดแผลที่เจ็บจากเสี้ยน หนาม หรืออาวุธมีคม

ตำรับเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็น “ยา” แต่ยังสะท้อนถึงวิถีชีวิตและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมของสังคมไทยในยุคโบราณ

ปัญหาและความท้าทายในปัจจุบัน

แม้สรรพคุณตามตำราจะเป็นที่ยอมรับ แต่การนำตำรับมาใช้จริงในยุคปัจจุบันกลับเผชิญอุปสรรค เช่น ขั้นตอนการเตรียมยุ่งยาก อายุเก็บสั้น รูปแบบไม่สะดวกต่อการใช้ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานคุณภาพยา นอกจากนี้ แม้จะมีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ยืนยันฤทธิ์ต้านการอักเสบของ ยาทาพระเส้น ในหลอดทดลอง และมีข้อมูลด้านความปลอดภัยและปริมาณใช้ที่เหมาะสมของ น้ำมันมหาจักร จากการทดลองในสัตว์ทดลอง แต่การยืนยันประสิทธิผลในผู้ป่วยจริงและการกำหนดมาตรฐานการควบคุมคุณภาพยังเป็นโจทย์ที่ต้องสานต่อ

 

ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงด้วยวิทยาศาสตร์

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการ พัฒนาตำรับยาสมุนไพรเหล่านี้ให้อยู่ในรูปแบบแผนปัจจุบัน

  • ยาทาพระเส้น ถูกพัฒนาเป็น เจลและขี้ผึ้ง โดยเน้นการบรรจุสารสกัดได้มากที่สุด พร้อมการทดสอบความคงตัวทางกายภาพและจุลชีววิทยา ขณะเดียวกัน ยาทาพระเส้นยังได้ถูกบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ ด้านสมุนไพรแล้ว ทำให้การพัฒนาเป็นตำรับยามาตรฐานเพื่อใช้ในระบบสุขภาพภาครัฐเป็นโอกาสสำคัญที่จับต้องได้
  • น้ำมันมหาจักร ถูกพัฒนาเป็น ยาเหน็บและขี้ผึ้ง สำหรับการรักษาโรคริดสีดวงทวาร ผ่านการศึกษาด้านความปลอดภัย การหาปริมาณขั้นต่ำที่ใช้ได้ผล และการควบคุมคุณภาพด้วย HPLC แม้ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในผู้ป่วย แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับตำรับโบราณสู่การใช้จริง
Partners/Stakeholders

-

ผู้ดำเนินการหลัก
ผศ.ดร.ภญ.อัญชลี จินตพัฒนากิจ
ส่วนงานหลัก