การเลือกปลูกพืชทนแล้งกลายเป็นวิธีสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในการจัดการภูมิทัศน์
การเลือกปลูกพืชทนแล้งกลายเป็นวิธีสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในการจัดการภูมิทัศน์
พื้นที่สีเขียวในมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ครอบคลุมประมาณ 40% ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ท้องถิ่นและพันธุ์ไม้ทนแล้งกระจายอยู่ทั่วมหาวิทยาลัย เนื่องจากดูแลรักษาง่าย ใช้น้ำน้อยในการเจริญเติบโต ซึ่งพันธุ์ไม้ทนแล้งจะมีลักษณะกายวิภาคแตกต่างออกไป เช่น กิ่งแขนงแสดงลักษณะลำต้นคล้ายใบทำหน้าที่สังเคราะห์แสง ลักษณะการเรียงตัวของปากใบ ชั้นผิวที่หนาหรือมีเซลล์ที่ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำของพืช ทำให้ลดปริมาณการใช้น้ำในการดูแลรักษาต้นไม้ และมหาวิทยาลัยได้ออกแบบระบบการจัดการน้ำผิวดินซึ่งรวบรวมน้ำฝนและน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วผ่านเครือข่ายคูคลองรอบมหาวิทยาลัย เพื่อใช้ในการดูแลและบำรุงรักษาพันธุ์ไม้ในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างพันธุ์ไม้ที่ปลูกเพื่อส่งเสริมความสวยงามและช่วยอนุรักษ์น้ำ ได้แก่


ไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง 10 - 20 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มทึบรูปไข่ ดอกสีขาว ออกเป็นช่อ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มิถุนายน ผลเป็นฝักแห้ง ออกเดือนมิถุนายน – สิงหาคม ปลูกปะปนกับไม้ชนิดอื่น ริมถนนพูนผลประชา

พืชคลุมดิน
นอกจากช่วยรักษาความชื้นและเพิ่มธาตุอาหารในดินแล้ว ยังช่วยลดอุณหภูมิและป้องกันการพังทลายของหน้าดิน ลดวัชพืช และเพิ่มกิจกรรมจุลินทรีย์ในดิน เช่น
💧การขยายผลการปลูกพืชใช้น้ำน้อย: เปลี่ยนพื้นที่หญ้าเป็นพืชคลุมดิน
มหาวิทยาลัยได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขยายพื้นที่ปลูกพืชใช้น้ำน้อยอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้นกระดุมทองเลื้อย ซึ่งเป็นพืชคลุมดินที่ช่วยรักษาความชื้นและลดการใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันการพังทลายหน้าดิน การดำเนินการนี้ไม่เพียงช่วยลดการใช้น้ำ แต่ยังส่งผลดีต่อการบริหารจัดการและต้นทุนอีกด้วย ณ ปัจจุบัน มีพื้นที่สำคัญที่ปลูกพืชใช้น้ำน้อย ได้แก่ พื้นที่ริมคลองบุ๋ยสระว่ายน้ำ (237 ตร.ม.) และพื้นที่รั้วเนินดินทิศตะวันตก (39,776 ตร.ม.)
โครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่แนวรั้วเนินดินเป็นต้นกระดุมทองเลื้อยมีความชัดเจนทั้งในด้านขนาดและการดำเนินการ:
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
ผลลัพธ์
🔬 ขั้นตอนการขยายพันธุ์ต้นกระดุมทองเลื้อย
เพื่อให้มั่นใจว่ามีต้นกล้าเพียงพอและเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการขยายพันธุ์ต้นกระดุมทองเลื้อยเอง ซึ่งเป็นวิธีที่ยั่งยืนและประหยัดต้นทุน:
ผลลัพธ์ด้านการจัดการและต้นทุน
การเลือกใช้พืชใช้น้ำน้อยและพืชคลุมดินส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียว:
แนวรั้วเนินดินทิศตะวันตกเดิม


การปักชำต้นกระดุมทองเลื้อย โดยใช้กิ่งจากต้นที่มีในพื้นที่ และการปลูกต้นกระดุมทอง ที่แนวรั้วเนินดิน
ปัจจุบัน ความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยแล้งที่ไม่แน่นอน ทำให้การเลือกปลูกพืชทนแล้งกลายเป็นวิธีสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในการจัดการภูมิทัศน์ ซึ่งนอกจากจะลดการใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการดูแลรักษา ซึ่งพืชเหล่านี้ยังคงความสวยงามและทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบในภูมิทัศน์ของมหาวิทยาลัยได้ดี
-