สร้างเสริมความปลอดภัยในโรงเรียน เพื่อสุขภาวะและชีวิตที่ดีของเด็กวัยเรียน
สร้างเสริมความปลอดภัยในโรงเรียน เพื่อสุขภาวะและชีวิตที่ดีของเด็กวัยเรียน
ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก มีรายงานสถานการณ์การบาดเจ็บและเสียชีวิตของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2545 ถึงพ.ศ. 2557 รวม 13 ปี พบว่า อัตราการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บและสารพิษของเด็กลดลง จาก 26:100,000 คน หรือ3,625 คนต่อปี เหลือ 22:100,000 คน หรือ 2,658 คนต่อปี คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตลดลงร้อยละ18 พบแนวโน้มการเสียชีวิตลดลงในกลุ่มเด็กน้อยกว่า 10 ปี แต่กลุ่มเด็กอายุ 10-14 ปีมีแนวโน้มการเสียชีวิตสูงขึ้น สาเหตุการเสียชีวิตจากการจมน้ำเป็นเหตุหลักที่นำไปสู่การเสียชีวิตของเด็กอายุน้อยกว่า 10 ปี และการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร พบมากในกลุ่มเด็กอายุ 10-14 ปี ส่วนการขาดอากาศหายใจจากเหตุต่าง ๆ ซึ่งเป็นเหตุนำการเสียชีวิตลำดับที่ 3 ของเด็กเล็กหรือเด็กปฐมวัย รองจากจมน้ำและบัติเหตุจราจร ส่วนไฟฟ้าเป็นเหตุนำการเสียชีวิตลำดับที่ 3 ของเด็กโตหรือเด็กวัยเรียน รองจากอุบัติเหตุจราจรและความรุนแรง โดยปัจจัยของการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บมีความสัมพันธ์กับ พัฒนาการของเด็ก สิ่งแวดล้อมเสี่ยง/อันตราย รวมทั้งความอ่อนแอของการดูแลและการคุ้มครองเด็ก นอกจากนี้กลุ่มที่ไม่เสียชีวิตแต่บาดเจ็บจนต้องรับการรักษาทั้งคลินิก,สถานีอนามัยและโรงพยาบาล มีจำนวนกว่า 1,500,000 คนต่อปี และร้อยละ18 ของเด็กที่บาดเจ็บมารับการตรวจรักษาที่ห้องฉุกเฉินเป็นการบาดเจ็บที่เกิดในโรงเรียนหรือระหว่างทางไปกลับโรงเรียนประมาณปีละ270,000คน
ระบบการศึกษาภาคบังคับทำให้เด็กส่วนใหญ่ใช้ชีวิตส่วนหนึ่งอยู่ในโรงเรียนอย่างน้อย 12 ปี พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก 2546 หมวด 7 การส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษากำหนดให้ โรงเรียนและครูมีหน้าที่จัดการและส่งเสริมความปลอดภัยแก่นักเรียน และหน่วยงานกำกับดูแลสถานศึกษาและที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็ก ร่วมมีมาตรการและส่งเสริมให้โรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดภัย เช่น โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีคู่มือแนวทางปฏิบัติและมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานที่ และร่วมมือกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินงานและประกวด โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพมี 10 ตัวชี้วัดด้านสุขภาวะและความปลอดภัย เป็นต้น เพื่อสนับสนุนส่งเสริมความปลอดภัยและสุขภาวะแก่นักเรียนและบุคลากร ซึ่งสถานการณ์การบาดเจ็บและเสียชีวิต ความไม่ปลอดภัยของเด็กหรือนักเรียนในโรงเรียนยังมีพบเห็นอยู่ มาตรการและการสนับสนุนยังไม่ครอบคลุมและทั่วถึงแก่โรงเรียนทุกสังกัดไม่มีตัวอย่างรูปแบบสร้างความปลอดภัยในโรงเรียน รวมทั้งยกระดับรับรอง “โรงเรียนปลอดภัย” ตัวอย่างให้เกิดขึ้น
การสร้างเสริมความปลอดภัยในโรงเรียนเป็นการพัฒนางานด้านความปลอดภัยของนักเรียนให้ปราศจากภัยอันตราย อุบัติเหตุจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก และปราศจากการถูกทำร้ายและความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ โดยโรงเรียนมีนโยบายและแผนงานที่มุ่งลดความเสี่ยง จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย ลดพฤติกรรมอันตรายหรือเสี่ยงต่อการบาดเจ็บทางร่างกาย จิตใจ และสังคมทั้งในกลุ่มเด็กปกติและเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือ
ในระดับสากลมีการรวมตัวของผู้แทนนานาประเทศจัดตั้งศูนย์รับรองชุมชนปลอดภัยระหว่างประเทศหรือInternationalSafe CommunityCertifyingCentre(ISCCC)เป็นหน่วยงานรับรองและมีเครือข่ายชุมชนปลอดภัย (SafeCommunityNetwork) ขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2532 ให้สอดคล้องกับนโยบายขององค์การอนามัยโลกที่มุ่งเน้นการสร้างเสริมความปลอดภัย( SafetyPromotion ) ในการป้องกันและลดการเสียชีวิตจากบาดเจ็บ อุบัติเหตุและความรุนแรง โดยหน่วยงานนี้เป็นศูนย์กลางพัฒนารูปแบบดำเนินงานและให้การรับรองแต่งตั้ง “ชุมชนปลอดภัย” และ “โรงเรียนปลอดภัย”เพื่อเป็นตัวอย่างการเรียนรู้การดำเนินงานและวัฒนธรรมความปลอดภัยในสังคมนั้น ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ได้รับแต่งตั้งเป็นหน่วยประสานและสนับสนุนชุมชนปลอดภัยในประเทศไทย (International Safe Community Supporting Centre) ในการขับเคลื่อนดำเนินงานชุมชนปลอดภัยและโรงเรียนปลอดภัยประเทศไทย
สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว (NICFD) และศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บ (CSIP) คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เล็งเห็นว่าเด็กวัยเรียน/นักเรียน ควรมีความสมบูรณ์ทั้งทางกาย ทางจิต ทางปัญญา และทางสังคม ที่เชื่อมโยงกันเป็นองค์รวมอย่างสมดุลรวมทั้งได้รับการดูแล ความคุ้มครองและสร้างทักษะความสามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น ให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ถูกทำร้ายและปลอดจากภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในบ้าน โรงเรียน ชุมชนและสังคมจึงจัดโครงการสร้างเสริมความปลอดภัยในโรงเรียนและการรับรองโรงเรียนปลอดภัย ในนาม “MU Safe School” ขึ้น เพื่อพัฒนาสุขภาวะและความปลอดภัยของนักเรียนในโรงเรียน พัฒนาความรู้และทักษะความปลอดภัยแก่บุคลากรและครู สนับสนุนรูปแบบการดำเนินงานและยกระดับการรับรองโรงเรียนปลอดภัย โดยมีกลุ่มเป้าหมายได้แก่ สถานศึกษา-โรงเรียน ผู้บริหารบุคลากรและครูในโรงเรียน นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนละแวกโรงเรียน
กระทรวงศึกษาธิการ, คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน , คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน , สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร , กองส่งเสริมและพัฒนาการจัดการศึกษาท้องถิ่น