โครงการการส่งเสริมสุขภาพด้านจิตใจของนักเรียนโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร

detail

ส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพจิตใจของนักเรียนผ่านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บนระบบออนไลน์ (Moodle LMS) ควบคู่กับการเฝ้าระวังสุขภาพจิตและการเสริมสร้างศักยภาพของครูผู้ดูแลด้านจิตใจประจำโรงเรียนเพื่อให้มีการคัดกรองและแนวทางในการเฝ้าระวังและส่งต่อนักเรียนที่มีปัญหาทางสุขภาพจิต

ความสำคัญและที่มาของปัญหา :

          วัยเรียนเป็นช่วงสำคัญในการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม อย่างไรก็ตาม นักเรียนในช่วงวัยนี้มักเผชิญกับความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตจากหลากหลายปัจจัย เช่น ความกดดันจากการเรียน การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในชีวิต ความคาดหวังจากครอบครัวและสังคม ความขัดแย้งในครอบครัวหรือเพื่อน รวมถึงความกังวลต่ออนาคต ปัญหาการรู้จักตนเอง และการเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหรือความเครียด หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ การพัฒนาทางอารมณ์ ความสัมพันธ์กับผู้อื่น และคุณภาพชีวิตในระยะยาว ข้อมูลจากสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ระหว่างเดือนตุลาคม 2564 ถึงกันยายน 2565 พบว่า เยาวชนอายุ 12-18 ปี จำนวน 7,369 คน เข้ารับบริการปรึกษา โดยมีปัญหาหลัก ได้แก่ ปัญหาครอบครัว ความรัก และการเรียน ซึ่งเป็นปัจจัยที่สร้างความเครียดและกดดันอย่างมาก แม้บางรายจะไม่แสดงพฤติกรรมผิดปกติชัดเจน แต่ภายในกลับรู้สึกเจ็บปวดและสิ้นหวัง ซึ่งอาจนำไปสู่การทำร้ายตนเองหรือการฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกว่าตนไม่มีทางเลือกอื่น หรือกลัวว่าจะไม่สามารถทำตามความคาดหวังของครอบครัวได้ นักเรียนจำนวนไม่น้อยจึงต้องเผชิญกับปัญหาเพียงลำพัง ทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวและหมดหวัง

          การสนับสนุนสุขภาพจิตใจในวัยเรียนจึงถือเป็นแนวทางป้องกันเบื้องต้นที่สำคัญในการลดผลกระทบรุนแรงจากปัญหาดังกล่าว การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเปิดเผยความรู้สึก การมีพื้นที่ปลอดภัยให้ขอความช่วยเหลือ และการสนับสนุนจากครอบครัวและโรงเรียน มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้นักเรียนสามารถเผชิญกับปัญหาได้อย่างเหมาะสมและไม่ใช้วิธีการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตใจหรือร่างกาย

         

 

จำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม : 

ชื่อโรงเรียน เขต ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567
ชิโนรสวิทยาลัย บางกอกน้อย 343 385 -
ทวีธาภิเศก บางกอกใหญ่ 21 479 -
ทีปังกรวิทยาพัฒน์ – วัดน้อยใน  ตลิ่งชัน 13 28 -
ธนบุรีวรเทพีพลารักษ์ ธนบุรี 48 43 8
นวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล ทวีวัฒนา 393 700 504
บางปะกอกวิทยาคม ราษฎร์บูรณะ 450 812 -
บางมดวิทยา จอมทอง 254 307 246
ปัญญาวรคุณ บางแค 599 690 -
มัธยมวัดดุสิตาราม บางกอกน้อย 102 69 -
มัธยมวัดสิงห์ จอมทอง 304 534 270
ราชนันทาจารย์ สามเสนวิทยาลัย2 บางซื่อ 140 106 -
ราชวินิตบางแคปานขำ บางแค 120 110 -
ศึกษานารี ธนบุรี 287 472 -
สุวรรณารามวิทยาคม บางกอกน้อย 28 296 113
ดอนเมืองทหารอากาศบำรุง ดอนเมือง 175 138 -
เทพลีลา บางกะปิ 54 56 89
เทพศิรินทร์ ป้อมปราบศัตรูพ่าย 114 - -
เทพศิรินทร์ร่มเกล้า ลาดกระบัง 1,232 1,076 1,334
นนทรีวิทยา ยานนาวา 40 449 211
ราชวินิตบางเขน หลักสี่  221 158 -
ฤทธิยะวรรณาลัย สายไหม 1,543 362 2,825
ลาดปลาเค้าพิทยาคม ลาดพร้าว 14 149 238
สารวิทยา จตุจักร 309 925 1,854
สีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมภ์) ดอนเมือง 110 348 211
หอวัง จตุจักร 407 1,030 1,359
เศรษฐบุตรบำเพ็ญ มีนบุรี 33 - -
มัธยมวัดดาวคนอง ธนบุรี 2 - -
มัธยมวัดนายโรง บางกอกน้อย 21 - -
มัธยมวัดหนองจอก หนองจอก 271 - -
รัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน บางขุนเทียน 649 - -
ฤทธิยะวรรณาลัย 2 สายไหม 78 - -
เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้ากุนนที ดินแดง - - 65
บางกะปิ คลองจั่น - - 1,460
ปทุมคงคา คลองเตย - - 163
มัธยมวัดหนองแขม หนองแขม - - 966
ราชวินิต มัธยม ดุสิต - - 219
วัดน้อยนพคุณ ดุสิต - - 5
ศรีพฤฒา สะพานสูง 285 - 89
สตรีวัดมหาพฤฒาราม บางรัก - - 571
สันติราษฏร์วิทยาลัย ราชเทวี - - 67
รวม   8,660 9,722 12,867

วัตถุประสงค์ของโครงการ :

1. เพื่อประเมินสุขภาพด้านจิตใจของนักเรียนโรงเรียนในกรุงเทพมหพมหานคร

2. เพื่อส่งเสริมสุขภาพด้านจิตใจของนักเรียนโรงเรียนในกรุงเทพมหพมหานคร

3. เพื่อส่งเสริมศักยภาพของครูผู้ดูแลสุขภาพใจประจำโรงเรียนในการคัดกรองและส่งต่อนักเรียนที่มีปัญหาสุขภาพจิตใจ

ขั้นตอนการดำเนินโครงการ :  

ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ :  มีทั้งหมด 7 ขั้นตอน ประกอบด้วย

1. เข้าร่วมโครงการส่งเสริมสุขภาพด้านจิตใจของของนักเรียนโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร ได้ที่ https://db.ph.mahidol.ac.th/moodle/

2. ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ และประเมินสุขภาพด้านจิตใจระดับความเครียด ครั้งที่ 1

3. สำรวจปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตใจในปัจจุบัน

4. การเรียนรู้การดูแลสุขภาพใจ 

  • ต้นทุนทางจิตวิทยาภาพรวม
  • ความหวัง
  • การมองโลกในแง่ดี
  • ความสามารถในการปรับตัวและฟื้นตัวภายหลักเหตุวิกฤติ
  • การรับรู้ความสามารถของตนเอง

5. แนวทางการประกอบอาชีพจากตัวอย่างที่สร้างแรงบรรดาลใจ

6. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสุขภาพจิตใจ

7. ประเมินสุขภาพด้านจิตใจระดับความเครียด ครั้งที่ 2

8. รับใบประกาศนียบัตร

ผลการดำเนินงาน :

          การส่งเสริมสุขภาพจิตใจ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมสุขภาพจิตใจในโรงเรียนพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2565 โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 โครงการมุ่งเน้นการเสริมสร้างสุขภาวะจิตใจของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเรียนรู้และปฏิบัติตามชุดกิจกรรมการดูแลสุขภาพใจด้วยตนเอง ในปีงบประมาณ 2565 มีนักเรียนจาก 32 โรงเรียน เข้าร่วมโครงการจำนวน 8,660 คน พบว่าร้อยละ 50 มีระดับความเครียดสูง บางรายอยู่ในระดับเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเอง อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าร่วมกิจกรรม นักเรียนจำนวนมากมีระดับความเครียดลดลงอยู่ในระดับปกติ ต่อมาในปีงบประมาณ 2566 โครงการดำเนินต่อเนื่องใน 24 โรงเรียน มีนักเรียนเข้าร่วมจำนวน 9,722 คน จากการประเมินก่อนเข้าร่วมกิจกรรม พบว่า 4,991 คน หรือร้อยละ 51.34 มีความเครียดในระดับสูง หลังเข้าร่วมกิจกรรมพบว่า จำนวนผู้มีความเครียดสูงลดลงเหลือ 4,000 คน หรือร้อยละ 41.14 แสดงให้เห็นว่าโครงการสามารถช่วยให้นักเรียนกว่า 1,700 คน กลับมามีระดับความเครียดอยู่ในเกณฑ์ปกติ และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้รับมอบหมายจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 13 กรุงเทพมหานคร ให้ดำเนินการโดยภาควิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินการโครงการในโรงเรียนทั้งหมด 22 แห่ง มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 12,867 คน ซึ่งประกอบด้วยนักเรียนหญิง 7,584 คน (ร้อยละ 58.93) และนักเรียนชาย 5,283 คน (ร้อยละ 41.07) ครอบคลุมระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6  เริ่มต้นด้วยการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตใจของนักเรียนโดยใช้แบบประเมินความเครียดที่พัฒนาขึ้นโดยประยุกต์จากกรมสุขภาพจิตพบว่า ก่อนการเข้าร่วมโครงการ มีนักเรียนที่มีความเครียดสูงจำนวน 6,572 คน (ร้อยละ 51.08) ขณะที่นักเรียนที่มีความเครียดในระดับปกติมีจำนวน 6,295 คน (ร้อยละ 48.92) หลังจากการศึกษาชุดการเรียนรู้การดูแลสุขภาพจิตใจ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาความสามารถในการรับรู้ตนเองและการปรับตัวหลังเกิดวิกฤต พบว่าจำนวนของนักเรียนที่มีความเครียดสูงลดลงเหลือ 5,591 คน (ร้อยละ 43.45) ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้ในการลดระดับความเครียดของนักเรียนอย่างมีนัยสำคัญ 

          จากการวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเครียดของนักเรียน มีดังนี้

  • การกดดันตนเอง
  • สภาพอากาศร้อน
  • ผลการเรียน
  • ความคาดหวังในการเรียนต่อ
  • การสั่งงานของครู

          แม้จะมีผลลัพธ์เชิงบวก แต่โครงการยังเผชิญกับความท้าทาย เช่น นักเรียนบางรายไม่พร้อมเปิดใจรับการช่วยเหลือ ผู้ปกครองไม่ยอมรับว่าลูกมีปัญหาด้านสุขภาพจิต และกระบวนการส่งต่อนักเรียนให้ได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ยังใช้เวลานาน ทำให้การช่วยเหลือไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างทันท่วงที จากการดำเนินโครงการที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของการมีระบบสนับสนุนสุขภาพจิตในโรงเรียนอย่างเป็นระบบ โดยควรมีความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ครอบครัว และหน่วยงานด้านสุขภาพจิต เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างต่อเนื่องและครอบคลุม ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเยาวชนให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ มีสุขภาวะทางจิตใจที่ดี และสามารถเผชิญกับความท้าทายในชีวิตได้อย่างมั่นคง

          นอกจากนี้ โครงการได้ดำเนินการอบรมเชิงปฏิบัติการในการเสริมสร้างสมรรถนะของครู เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโครงการและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพจิตใจของนักเรียน การอบรมและให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการสุขภาพจิตใจ การให้คำปรึกษา และการส่งต่อนักเรียนที่มีปัญหาสุขภาพจิตใจไปยังสถานบริการสาธารณสุขที่เหมาะสม โดยมีครูเข้าร่วมโครงการจากโรงเรียนต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 50 คน ซึ่งช่วยเพิ่มทักษะและความรู้ของครูในการจัดการปัญหาทางสุขภาพจิตใจของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีแนวทางในการส่งต่อและสร้างเครือข่ายกับสถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ได้ และการคัดกรองสุขภาพจิตใจของนักเรียนในโครงการนี้ ซึ่งมีประสิทธิภาพสะท้อนข้อมูลเชิงลึกรายบุคคลและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เฉพาะเจาะจงได้อย่างมีประสิทธิผล การตอบคำถามปลายเปิดเผยให้เห็นถึงปัญหาทางจิตใจที่รุนแรงของนักเรียน ซึ่งต้องได้รับการดำเนินการแก้ไข เฝ้าระวังโดยครู และส่งต่อนักเรียนไปยังสถานบริการสาธารณสุขตามสิทธิของนักเรียนได้

          จากการดำเนินโครงการนี้ทำให้เห็นว่า การคัดกรองโดยการประเมินความเสี่ยงด้านจิตใจและการส่งเสริมสุขภาพจิตใจนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ การคัดกรองทำให้นักเรียนได้ทราบว่าตนเองมีความเสี่ยงต่อสุขภาพจิตใจอยู่ในระดับใด และทำให้ครูสามารถทราบความเสี่ยงของนักเรียนเพื่อให้คำปรึกษาและส่งต่อได้ นอกจากนี้ ระบบการเฝ้าระวังด้านสุขภาพจิตใจภายในโรงเรียนและสมรรถนะของครูผู้ดูแลประจำโรงเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรพัฒนาเป็นระบบ เพื่อช่วยติดตามและดูแลสุขภาพจิตใจของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความพร้อมเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงกับสถานการณ์แพร่ระบาดหรือภาวะวิกฤติต่างๆ ต่อไปในอนาคต

จำนวนครูที่เข้าร่วมกิจกรรม : 

ชื่อโรงเรียน เขต ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567
ชิโนรสวิทยาลัย บางกอกน้อย - 1 1
ทวีธาภิเศก บางกอกใหญ่ - 1 -
ทีปังกรวิทยาพัฒน์ – วัดน้อยใน  ตลิ่งชัน - 1 -
ธนบุรีวรเทพีพลารักษ์ ธนบุรี - 1 1
นวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล ทวีวัฒนา - 1 1
บางปะกอกวิทยาคม ราษฎร์บูรณะ - 1 -
บางมดวิทยา จอมทอง - 1 1
ปัญญาวรคุณ บางแค - 1 1
มัธยมวัดดุสิตาราม บางกอกน้อย - 1 -
มัธยมวัดสิงห์ จอมทอง - 1 1
ราชนันทาจารย์ สามเสนวิทยาลัย2 บางซื่อ - 1 1
ราชวินิตบางแคปานขำ บางแค - 1 -
ศึกษานารี ธนบุรี - 1 1
สุวรรณารามวิทยาคม บางกอกน้อย - 1 1
ดอนเมืองทหารอากาศบำรุง ดอนเมือง - 1 1
เทพลีลา บางกะปิ - 1 -
เทพศิรินทร์ ป้อมปราบศัตรูพ่าย - - -
เทพศิรินทร์ร่มเกล้า ลาดกระบัง - 1 1
นนทรีวิทยา ยานนาวา - 1 1
ราชวินิตบางเขน หลักสี่  - 1 1
ฤทธิยะวรรณาลัย สายไหม - 1 1
ลาดปลาเค้าพิทยาคม ลาดพร้าว - 1 1
สารวิทยา จตุจักร - 1 1
สีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมภ์) ดอนเมือง - 1 1
หอวัง จตุจักร - 1 1
เศรษฐบุตรบำเพ็ญ มีนบุรี - - -
มัธยมวัดดาวคนอง ธนบุรี - - -
มัธยมวัดนายโรง บางกอกน้อย - - -
มัธยมวัดหนองจอก หนองจอก - - -
รัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน บางขุนเทียน - - -
ฤทธิยะวรรณาลัย 2 สายไหม - - 1
เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้ากุนนที ดินแดง - - 1
บางกะปิ คลองจั่น - - 1
ปทุมคงคา คลองเตย - - 1
มัธยมวัดหนองแขม หนองแขม - - -
ราชวินิต มัธยม ดุสิต - - -
วัดน้อยนพคุณ ดุสิต - - 1
ศรีพฤฒา สะพานสูง - - 1
สตรีวัดมหาพฤฒาราม บางรัก - - 1
สันติราษฏร์วิทยาลัย ราชเทวี - - 1
รวม   0 24 26

 

สรุปผลลัพธ์การดำเนินโครงการ :  

ปีงบประมาณ จำนวนโรงเรียน

จำนวนนักเรียนที่เข้าร่วม

นักเรียนที่มี ความเครียดสูง 
ก่อนร่วมกิจกรรม

นักเรียนที่มี ความเครียดสูงหลังร่วมกิจกรรม

ลดจำนวนผู้มีความเครียดสูง

2565 32 8,660 คน 4,330 คน (50%) 3,383 คน (39.06%) 947 คน
2566 24 9,722 คน 4,991 คน (51.34%) 4,000 คน (41.14%) 991 คน
2567 22 12,867 คน 6,572 คน (51.08%) 5,5591 คน (43.45%) 981 คน

ภาพรวม 3 ปี (2565 - 2567)  :  

  • โรงเรียนเข้าร่วมทั้งหมด : 78 โรงเรียน
  • นักเข้าร่วมทั้งหมด : 31,249 คน
  • นักเรียนที่มีความเครียดสูงก่อนเข้าร่วม (เฉลี่ย) : ประมาณ 50 - 51%
  • แนวโน้มหลังเข้าร่วมกิจกรรม :
    • ความเครียดระดับสูง ลดลงเฉลี่ยน 8 - 10% ต่อปี
    • นักเรียน 2,919 คน กลับมามีสุขภาพจิตในระดับปกติ

การเสริมสร้างสรรถนะครู  : 

ปีงบประมาณ จำนวนโรงเรียน จำนวนครูเข้าร่วมอบรม หัวข้อ
2565 32 - -
2566 24 24

- การสังเกต ให้คำปรึกษา ส่งต่อนักเรียน
- การใช้งานระบบ https://db.ph.mahidol.ac.th/moodle/
- การสร้างระบบดูแลสุขภาพจิตในโรงการ

2567 22 26

- การสังเกต ให้คำปรึกษา ส่งต่อนักเรียน
- การใช้งานระบบ https://db.ph.mahidol.ac.th/moodle/
- การสร้างระบบดูแลสุขภาพจิตในโรงการ

 

ประโยชน์ร่วมกันแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย :  

1. นักเรียน ได้รับการคัดกรองสุขภาพจิตอย่างเป็นระบบ เข้าใจภาวะความเครียดของตนเอง และได้รับการส่งเสริมทักษะในการดูแลสุขภาพจิตใจ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวต่อภาวะวิกฤติ

2. ครู ได้รับการพัฒนาศักยภาพในการสังเกต ให้คำปรึกษา และส่งต่อนักเรียนที่มีปัญหาสุขภาพจิตใจ รวมทั้งสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสุขภาพจิตประจำโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. โรงเรียน มีแนวทางและระบบเฝ้าระวังสุขภาพจิตใจนักเรียนที่ชัดเจน สามารถวางแผนและจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับบริบทและความต้องการของนักเรียนได้อย่างตรงจุด

4. หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 กรุงเทพมหานคร ได้รับข้อมูลเชิงลึกและเชิงประจักษ์ที่ใช้ประกอบการพัฒนานโยบายสุขภาพจิตใจในระดับพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ

5. ภาควิชาฯ และสถาบันการศึกษา ได้ร่วมดำเนินการวิจัยและพัฒนาเครื่องมือ/แนวทางการดำเนินงานเชิงวิชาการ อันเป็นการส่งเสริมบทบาทของสถาบันในการขับเคลื่อนสังคมด้านสุขภาพจิตใจ

ผลกระทบในระดับชุมชน/ประเทศ :  

1. ระดับชุมชน โรงเรียนและครูมีความสามารถในการดูแลสุขภาพจิตใจของนักเรียนในพื้นที่ของตนเองอย่างต่อเนื่อง เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างโรงเรียนกับสถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ นำไปสู่ระบบการเฝ้าระวังและการตอบสนองที่รวดเร็วเมื่อเกิดปัญหา

2. ระดับประเทศ ข้อมูลจากโครงการเป็นฐานสำหรับการวางแผนนโยบายสุขภาพจิตใจของเยาวชนอย่างมีหลักฐานเชิงประจักษ์ ช่วยลดภาระด้านสุขภาพจิตในระยะยาว ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษา และส่งเสริมศักยภาพเยาวชนไทยให้สามารถเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวิกฤตการณ์ในอนาคตได้อย่างเข้มแข็ง

แผนงานต่อไปที่จะทำให้เกิดความยั่งยืน :  

1. พัฒนาระบบเฝ้าระวังสุขภาพจิตใจในโรงเรียน อย่างเป็นระบบ โดยบูรณาการเข้าสู่กิจกรรมประจำของสถานศึกษา และสร้างกลไกติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

2. ส่งเสริมสมรรถนะครูผู้ดูแลสุขภาพจิตใจ ให้มีบทบาทเชิงรุกผ่านการอบรมและการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก รวมถึงการจัดทำคู่มือการดำเนินงานที่ใช้ได้จริงในบริบทโรงเรียน

3. ขยายเครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างโรงเรียน หน่วยงานสาธารณสุข และภาคีด้านสุขภาพจิตใจอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการส่งต่อและดูแลอย่างต่อเนื่อง

4. พัฒนาและปรับปรุงเครื่องมือประเมินและชุดการเรียนรู้ ให้เหมาะสมกับช่วงวัยและบริบทของนักเรียนในแต่ละพื้นที่ รวมถึงนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

5. ผลักดันนโยบายสาธารณะ ให้มีการบรรจุสุขภาพจิตใจไว้ในแผนพัฒนาการศึกษาและสุขภาพของประเทศอย่างชัดเจน เพื่อการสนับสนุนที่เป็นระบบในระยะยาว

ช่องทางการติดต่อ :  

ชื่อหน่วยงาน : ภาควิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

โทรศัพท์ :  02 6444070 ต่อ 102  

เว็บไซต์ : https://phoh.ph.mahidol.ac.th

 

Partners/Stakeholders

1. ผศ.ดร.กุณฑลีย์ บังดะดานรา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

2. ดร.สุวัสสา ปั้นเหน่ง มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร

3. สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 13 กรุงเทพมหานคร

4. ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

5. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร

6. โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร

ผู้ดำเนินการหลัก
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัชชัย ธนโชคสว่าง และ รองศาสตราจารย์ ดร.สรา อาภรณ์
ส่วนงานหลัก