กลุ่มงานวิจัยนโยบายอาหารและการติดตามและประเมินผล (Food Policy and Monitoring and Evaluation: Food ME)

detail

  • กลุ่มงานวิจัยนโยบายอาหารและการติดตามและประเมินผล (Food Policy and Monitoring and Evaluation: Food ME) มุ่งผลิตงานวิจัยเพื่อชี้ทิศทางนโยบายด้านอาหารและโภชนาการของประเทศโดยศึกษาพฤติกรรมการบริโภคอาหารของคนไทยในระดับบุคคลและสิ่งแวดล้อมทางอาหาร รวมถึงวิเคราะห์นโยบายรัฐและติดตามประเมินผลเพื่อสนับสนุนให้ประชากรไทยบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพและเข้าถึงอาหารได้ทั้งในภาวะปกติและวิกฤต
  • Food ME มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานกำหนดนโยบาย องค์กรที่เกี่ยวข้อง และผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศในกระบวนการวิจัย เพื่อผลิตงานที่ได้มาตรฐานสากล โปร่งใส สะท้อนสถานการณ์จริง และตอบสนองความต้องการของประเทศ ผลงานวิจัยหลายชิ้นของ Food ME ได้รับนำไปใช้ขับเคลื่อนและปรับปรุงนโยบายด้านอาหารที่สำคัญของประเทศ เช่น การควบคุมการตลาดอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพเด็ก การจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มรสหวาน และการส่งเสริมการบริโภคผักผลไม้ เป็นต้น

 


เป้าหมายและความเป็นมาของ FOOD ME

Food ME มุ่งเน้นผลิตงานวิจัยเพื่อศึกษาพฤติกรรมด้านอาหารของประชากรไทยทั้งในระดับบุคคล (individual) และสิ่งแวดล้อมทางอาหาร ทั้งเชิงสังคมและกายภาพ (social and physical environments) และวิเคราะห์นโยบายรัฐ รวมการติดตามและประเมินผล (policy analysis and monitoring and evaluation)

Food ME ของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม เริ่มต้นในปี 2560 มุ่งมั่นผลิตข้อมูลวิจัยเพื่อใช้ชี้ทิศนโยบายด้านอาหารและโภชนาการของประเทศ และสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานรัฐและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนให้ประชากรไทยบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีความมั่นคงทางอาหาร และสามารถพึ่งพาตนเองด้านอาหารได้ทั้งในภาวะปกติและวิกฤติ รวมถึงส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคมในระดับพื้นที่และประเทศ โดยโครงการวิจัยภายใต้กลุ่มงานวิจัยนโยบายอาหารและการติดตามประเมินผล สามารถจำแนกออกเป็น 2 ลักษณะ ประกอบด้วยโครงการวิจัยต่างๆ ดังนี้

(1) โครงการวิจัยด้านนโยบายอาหารและการติดตามประเมินผล มีการดำเนินการต่อเนื่อง 3 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 โครงการวิจัยด้านอาหารและโภชนาการ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนงานด้านอาหารและโภชนาการในประเทศไทย (2564-2565) ประกอบด้วยโครงการวิจัยย่อย 6 โครงการ ได้แก่ (1) การศึกษาระบบอาหารของประเทศไทย (2) การคาดประมาณผลกระทบทางสุขภาพจากมาตรการขึ้นภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในประเทศไทย (3) การประเมินประสิทธิผลการใช้เกณฑ์จำแนกอาหารในรูปแบบต่างๆ   เพื่อส่งเสริมการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพของคนไทย (4) การติดตามการตลาดที่เกี่ยวข้องกับอาหารและเครื่องดื่มสำหรับเด็กและเยาวชนผ่านสื่อโทรทัศน์และยูทูป และ (5) การจัดทำข้อเสนอการพัฒนาแผนติดตามประเมินผลสำหรับแผนอาหารเพื่อสุขภาวะ 2565-2574

ระยะที่ 2 โครงการวิจัยระบบการจัดการอาหารเพื่อสุขภาวะตลอดห่วงโซ่ และมาตรการลดการเข้าถึงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพของคนไทย (2566- 2567) ประกอบด้วยโครงการวิจัยย่อย 5 โครงการ ได้แก่ (1) การวิเคราะห์วิธีปฏิบัติจัดซื้อจัดจ้างโครงการอาหารกลางวันโรงเรียนเพื่อเชื่อมโยงระบบอาหารชุมชน (2) การศึกษาความเป็นธรรมในห่วงโซ่อุปทานอาหารด้วยกลไกตลาดเขียว (3) การวิเคราะห์ความคุ้มค่าของมาตรการส่งเสริมการบริโภคผักและผลไม้ในประชากรไทย (4) มาตรการเพิ่มพฤติกรรมการบริโภคผักผลไม้ในกลุ่มเยาวชนไทยโดยใช้แนวคิดเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม และ (5) การติดตามการตลาดอาหารและเครื่องดื่มในเด็กของประเทศไทย

ระยะที่ 3 โครงการวิจัยด้านอาหารและโภชนาการ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทางอาหารที่ดีต่อสุขภาพในประเทศไทย (2567-2568) ประกอบด้วยโครงการวิจัยย่อย 4 โครงการ ได้แก่ (1) สถานการณ์ระบบอาหารของท้องถิ่นในประเทศไทย (2) การศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำมาตรฐานกลางการผลิตและให้บริการอาหารสตรีทฟู้ดที่ดีต่อสุขภาพและการนำมาตรฐานไปสู่การปฏิบัติในประเทศไทย (3) โครงการศึกษาสถานการณ์การบริโภคอาหาร ความมั่นคงทางอาหาร และความรอบรู้ด้านอาหารของคนพิการไทย และ (4) การคาดประมาณผลของการดำเนินมาตรการจัดเก็บภาษีตามปริมาณโซเดียม: การศึกษาด้วยแบบจำลอง

(2) โครงการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคของคนไทย มีการดำเนินการต่อเนื่อง 2 ระยะ คือ (1) การศึกษาพฤติกรรมการกินผักและผลไม้ของคนไทย (2560-2562) และ (2) โครงการศึกษาสถานการณ์การบริโภคผักและผลไม้ของคนไทย (2563-2565) นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการสำรวจเพื่อตอบปัญหาการบริโภคของคนไทยเฉพาะด้าน 2 โครงการ ประกอบด้วย (1) โครงการการสำรวจติดตามพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มที่มีรสหวานของคนไทย ภายหลังการออกมาตรการเก็บภาษีสรรพสามิตในเครื่องดื่มที่มีรสหวาน ปีที่ 3 พ.ศ. 2563 (2563-2564) และ (2) โครงการศึกษาสถานการณ์การบริโภคอาหาร ความมั่นคงทางอาหาร และความรอบรู้ด้านอาหารของประชากรไทย (2565-2567)

(3) โครงการด้านอาหารและโภชนาการอื่นๆ ครอบคลุมการดำเนินการเกี่ยวกับอาหารและโภชนาการเพื่อตอบปัญหาเฉพาะด้านอื่นๆ เช่น ปัญหาภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนในเด็ก ดังที่มีการดำเนินการภายใต้โครงการการพัฒนางานวิจัยเชิงนโยบายเพื่อลดภาวะน้ำหน้กเกินและโรคอ้วนในเด็กไทย (Childhood Overweight and Obesity (COO) Policy Research Project) (2562 – 2563) ที่ประกอบด้วย 7 โครงการวิจัยย่อย ได้แก่ (1) การศึกษาปัจจัยระดับบุคคลและปัจจัยทางสภาพแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อการเกิดภาวะนํ้าหนักเกินและโรคอ้วนในเด็กไทย (2) การวิเคราะห์นโยบายรัฐเพื่อจัดการภาวะนํ้าหนักเกินและโรคอ้วนในเด็กไทยตามกรอบชุดคำแนะนำเชิงนโยบายขององค์การอนามัยโลก (3) การประเมินผลของมาตรการ ลดภาวะนํ้าหนักเกินและโรคอ้วนในเด็กไทยที่ดำเนินการในปัจจุบันต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของเด็กไทยและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก (4) การวิเคราะห์ความคุ้มค่าของมาตรการทางสุขภาพในการลดปัญหาภาวะนํ้าหนักเกิน และโรคอ้วนในเด็กไทย (5) การศึกษาภูมิทัศน์สื่อ พฤติกรรมการบริโภคสื่อ และการรู้เท่าทันสื่อทางสุขภาพสำหรับเด็กไทย (6) การคาดประมาณความชุกและจำนวนเด็กที่มีภาวะนํ้าหนักตัวเกินและโรคอ้วนของประเทศไทยในอนาคต และ (7) การวิเคราะห์การดำเนินนโยบายและมาตรการในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ ในการลดภาวะนํ้าหนักเกิน และโรคอ้วนในเด็ก

นอกจากนี้ Food ME ยังมีโครงการด้านอาหารและโภชนาการอื่นๆ ที่ใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายด้านอาหารและโภชนาการของหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ โครงการศึกษาและทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวกับกระบวนการส่งเสริมโภชนาการและการเจริญเติบโตของเด็กปฐมวัยในต่างประเทศ (2566) โครงการจัดทำสมุดปกขาว “แนวทางการส่งเสริมการปลูกพืชผักผลไม้ในครัวเรือนและชุมชนในประเทศไทย (One Home One Garden Policy) (2566) โครงการจัดทำสมุดปกขาว “แนวทางการยกระดับการดำเนินการเกี่ยวกับสตรีทฟู้ดในประเทศไทย (World Class Street Foods Policy) (2566) โครงการ Development of monitoring and evaluation (M&E) framework to support controls on the marketing of unhealthy food and drink for children in Thailand (2565) และโครงการสำรวจติดตามพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มที่มีรสหวานและเครื่องดื่มที่ได้ฉลากทางเลือกสุขภาพเพื่อใช้ขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการอาหารเพื่อสุขภาวะ (2566-2567)

รูปที่ 1 โครงการวิจัยของ Food ME ระหว่างปี 2560-2568

     Food ME ได้รับความไว้วางใจจากแหล่งทุนวิจัยของหน่วยงานรัฐ องค์กรระหว่างประเทศ และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอื่นๆ หลายแห่ง (เช่น สสส. สำนักโภชนาการ กรมอนามัย WHO Country Cooperation Strategy on NCDs มูลนิธิทันตสาธารณสุขแห่งประเทศไทย UNICEF International Development Research Centre (IDRC) และ Australian Research Council) ที่ให้ทุนทำวิจัยอย่างต่อเนื่อง รวมกว่า 20 โครงการ เป็นงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท

 

รูปที่ 2 โครงการวิจัยของ Food ME ที่ใช้ชี้ทิศในการขับเคลื่อนกระบวนนโยบายสาธารณะ และใช้สนับสนุนการทำงานของหน่วยงานรัฐและองค์กรไม่แสวงผลกำไรอื่นๆ

 

     Food ME ยังมีความร่วมมือด้านงานวิจัยและวิชาการกับสถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยต่างประเทศหลายแห่งในปัจจุบัน เช่น International Network for Food and Obesity/Non-communicable Diseases Research, Monitoring and Action Support (INFORMAS), Global Evaluation and Monitoring Network for Health and Nutrition (GEMNet-Health), Centre of Research Excellence for Food Retail Environments for Health, Institute for Physical Activity and Nutrition (IPAN), Deakin University, University of Sydney, Australian National University, University of Wollongong, Griffith University และ Universiti Kebangsaan Malaysia

     Food ME ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของหน่วยงานกำหนดนโยบายและองค์กรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทั้งในประเทศและต่างประเทศในกระบวนการวิจัย เพื่อให้การพัฒนางานวิจัยของ Food ME ที่ได้มาตรฐานสากล โปร่งใส สะท้อนสถานการณ์จริง ตอบสนองความต้องการของประเทศ และเกิดการนำข้อมูลวิจัยไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด  

 

ตัวอย่างงานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนและเกิดการนำไปใช้ประโยชน์ต่อเนื่อง

  1. โครงการวิจัยเพื่อชี้ทิศนโยบายควบคุมการทำการตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของเด็ก (Food Marketing Policy Project)

ที่มา โครงการวิจัยฯ ได้ดำเนินการติดตามการโฆษณาอาหารและเครื่องดื่มและผลกระทบของการทำการตลาดอาหารฯ เพื่อทำให้ทราบสถานการณ์การโฆษณาอาหารฯ และผลกระทบจากาการทำการตลาดอาหารที่มีต่อเด็ก และเป็นข้อมูลให้แก่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ในการกำหนดนโยบายด้านการควบคุมการตลาดอาหารฯ ต่อมาโครงการวิจัยฯ ได้ขยายการศึกษาด้านการตลาดอาหารฯ เพิ่มขึ้น โดยมีโครงการศึกษาทบทวนระบบการดำเนินงานด้านการติดตามและประเมินผลการควบคุมการทำการตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ดีต่อสุขภาพของเด็กไทย และโครงการการจัดทำข้อมูลพื้นฐาน (baseline data) ในการติดตามและประเมินผลการควบคุมการตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่มีผลกระทบต่อเด็ก เพื่อสนับสนุนข้อมูลวิชาการให้แก่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขในการขับเคลื่อนร่างพระราชบัญญัติการควบคุมการตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของเด็ก และการออกแบบกลไกการติดตามและประเมินผลการควบคุมการตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่มีผลกระทบต่อเด็ก

ผลการศึกษา โฆษณาอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดจาก 2 สถานีโทรทัศน์ ร้อยละ 95 เป็นโฆษณาอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมสูง ซึ่งมากกว่าโฆษณาอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมต่ำ (คิดเป็นร้อยละ 5) ในส่วนของช่องยูทูบเบอร์ 3 ช่อง ใน 9 คลิปวีดีโอ โฆษณาอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดนั้นมีมากถึงร้อยละ 67 ที่เป็นโฆษณาอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมสูง ในขณะที่โฆษณาอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมต่ำ มีเพียงร้อยละ 33 และเนื้อหาการโฆษณาอาหารฯ ได้แก่ เป็นสินค้าที่มีสารอาหารที่ดีมีคุณค่าทางโภชนาการ มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีสารอาหารที่เสริมความสวยงาม ในส่วนของโครงการศึกษาทบทวนและเสนอระบบการดำเนินงานด้านการติดตามและประเมินผลฯ ได้เสนอระบบและกลไกการติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินการปฏิบัติตามนโยบายการควบคุมการตลาดอาหารฯ ซึ่งรวมถึงระบบติดตามเชิงรุกที่เป็นการติดตามการตลาดอาหารฯ ของกรมอนามัยกับหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง และระบบติดตามเชิงรับ ซึ่งคือระบบรับเรื่องร้องเรียน นอกจากนี้ โครงการการจัดทำข้อมูลพื้นฐานฯ อยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมข้อมูลการโฆษณาอาหารทางโทรทัศน์และการทำการตลาดอาหารในโรงเรียน เพื่อจัดทำข้อมูลพื้นฐานให้แก่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขต่อไป

ข้อเสนอแนะ ถึงแม้ประเทศไทยมีกฎหมายการควบคุมการโฆษณาอาหาร แต่กฎหมายเหล่านี้ยังควบคุมได้ไม่ครอบคลุมจำนวน ความถี่ และเนื้อหาโฆษณาอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมสูง ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการควบคุมโฆษณาอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้

ผลงาน ผลการศึกษาของโครงการวิจัยฯ ได้นำไปสื่อสารสู่สาธารณะ และใช้สนับสนุนร่างพระราชบัญญัติการควบคุมการตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กในรูปแบบต่างๆ