มหาวิทยาลัยได้ดำเนิน โครงการติดตั้งตู้น้ำดื่มอัตโนมัติที่ให้บริการฟรี ในพื้นที่ส่วนกลาง วิทยาเขตศาลายา เป็นการดำเนินโครงการที่ส่งเสริมให้บุคลากร นักศึกษา มีความตระหนักและเห็นคุณค่าในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการลดการใช้ภาชนะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง โดยพกแก้วหรือกระบอกน้ำแทน ตลอดจนเป็นการสร้างสภาวะแวดล้อมและสนับสนุนให้นักศึกษาและบุคลากรนำแก้วส่วนตัวมากดน้ำดื่มจากตู้กดน้ำระบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะขวดพลาสติกจากการซื้อน้ำบริโภค และช่วยลดการสัมผัสของผู้ใช้งานทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อ อีกทั้งยังช่วยให้นักศึกษาและบุคลากรได้ดื่มน้ำดื่มที่มีคุณภาพ ถูกสุขอนามัย เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการบรรลุพันธกิจดังกล่าว โดยมีรายละเอียดดังนี้:
1. สร้างหลักประกันการเข้าถึงน้ำดื่มฟรีที่มีคุณภาพ (SDG 6)

• การเข้าถึงอย่างทั่วถึง: มหาวิทยาลัยได้ติดตั้งตู้น้ำดื่มอัตโนมัติที่ให้บริการฟรี รวมจำนวน 23 จุด ในบริเวณที่มีการใช้งานสูงและสามารถเข้าถึงได้ง่าย เช่น อาคารเรียน, สำนักงาน, ห้องสมุด, ศูนย์อาหาร, หอพักนักศึกษา และพื้นที่กิจกรรมส่วนกลาง เพื่อให้บริการแก่ นักศึกษา บุคลากร และประชาชนทั่วไป
• มาตรฐานคุณภาพ: ตู้น้ำดื่มดังกล่าวใช้ ระบบการกรองแบบ UF+UV ที่สามารถกรองและฆ่าเชื้อโรคได้อย่างสมบูรณ์ โดยยังคงรักษาแร่ธาตุที่จำเป็น ซึ่งไส้กรองน้ำได้รับรอง มาตรฐานคุณภาพน้ำดื่มจากสถาบัน NSF (National Sanitary Foundation) พร้อมการดูแลบำรุงรักษาด้วยการตรวจเช็คเป็นประจำและการเปลี่ยนไส้กรอง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและสุขอนามัยสูงสุด
   
   
   
   
   
   

ปริมาณน้ำดื่มจากตู้กดน้ำดื่มอัตโนมัติที่ให้บริการฟรี ปี 2567 (ลิตร)

2. สนับสนุนการลดขยะและการบริโภคอย่างรับผิดชอบ (SDG 12)

• การลดขยะพลาสติก: โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาคมมหาวิทยาลัย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสู่การลดการใช้ภาชนะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง โดยสนับสนุนให้มีการนำแก้วหรือกระบอกน้ำส่วนตัวมาใช้
• การบริโภคที่รับผิดชอบ: การดำเนินการนี้ช่วย ลดปริมาณขยะขวดพลาสติก ที่เกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัย และตอกย้ำความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการดำเนินงานตามหลักการ การบริโภคและการผลิตที่รับผิดชอบ (SDG 12)
• สุขภาวะที่ดี: การจัดหาน้ำดื่มที่มีคุณภาพยังเป็นการสนับสนุนสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาวะที่ดีของประชาคม (Well-being) อีกด้วย
   
   
   

การลงทุนในระบบการจัดหาน้ำดื่มสาธารณะนี้ จึงเป็นการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงระหว่างการพัฒนาคุณภาพชีวิต การจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน และการรักษาสิ่งแวดล้อม.