การขับเคลื่อนการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในมหาวิทยาลัยมหิดล
มหาวิทยาลัยมหิดลส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้กรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนการลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการเลือกใช้สินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยสารเคมีและของเสียอันตราย การลดปริมาณของเสีย เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความยั่งยืนขององค์กรอย่างต่อเนื่อง จึงได้กำหนดประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง นโยบายส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ.2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้
ประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง นโยบายส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2568
***********************************************************
ด้วยมหาวิทยาลัยมหิดลมีนโยบายขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยมหิดลสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Mahidol University Sustainability Action) ตาม 17 เป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ตระหนักถึงความสำคัญเกี่ยวกับการลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันให้มีรูปแบบการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน Ensure sustainable consumption and production patterns) มีเป้าประสงค์ที่ครอบคลุมประเด็น การจัดการและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ลดการปล่อยสารเคมีและของเสีย เป็นพิษออกสู่ธรรมชาติและจัดการอย่างถูกต้อง ลดของเสียโดยกระบวนการ reuse และ recycle ตอบสนอง SDG 12.7 การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ.2550 อธิการบดี จึงกำหนดแนวนโยบายส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยมหิดล ไว้ดังนี้
1. ให้ยกเลิกประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง นโยบายส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2566
2. ส่งเสริมให้มีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
“พัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” หมายความว่า สินค้าหรือบริการ ที่ส่งผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าสินค้าหรือบริการประเภทเดียวกัน แต่มีคุณสมบัติหรือคุณภาพเทียบเท่าหรือ สูงกว่าสินค้าหรือบริการประเภทเดียวกัน โดยพิจารณาจากขั้นตอนการจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง การใช้งาน การใช้งาน การนำกลับไปใช้ (reuse) การแปรใช้ใหม่ (recycle) และการนำไปกำจัด
3. ในการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ให้เลือกซื้อจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย (Supplier/Supply chain) ที่สินค้าและบริการขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง โดยให้ตรวจสอบรายการพัสดุที่ประสงค์จะจัดซื้อ ในเว็บไซต์
กรมควบคุมมลพิษ https://gp.pcd.go.th ว่าเป็นสินค้าที่ขึ้นทะเบียนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ถ้าเป็นสินค้าที่ขึ้นทะเบียนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุว่า ต้องเป็นสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และดำเนินการตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 หมวด 7/2 การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
4. สนับสนุนให้เลือกใช้วัสดุก่อสร้าง ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบงานก่อสร้าง ตรวจสอบรายการวัสดุก่อสร้าง ในเว็บไซต์
กรมควบคุมมลพิษ https://gp.pcd.go.th รวมถึงการจัดการของเสียจากการก่อสร้าง (Construction Waste Management Plan) การใช้วัสดุคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Materials) ประกอบการพิจารณาเลือกผู้ประกอบการ
5. สนับสนุนให้เลือกใช้โรงแรมที่ผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนว่าเป็นโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยตรวจสอบรายชื่อโรงแรมได้จากเว็บไซต์
GREEN HOTEL https://greenhotelthai.com
6. ในการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่อยู่นอกเหนือจากรายการสินค้าและบริการของกรมควบคุมมลพิษ ให้คำนึงถึงประเภทของฉลากสิ่งแวดล้อม 3 ประเภท ดังนี้
- ฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 1 (ISO 14024)
- ฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 2 (ISO 14021)
- ฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3 (ISO 14025)
โดยส่งเสริมให้มีการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใสและให้ความเสมอภาคกับทุกองค์กร
7. ส่งเสริมให้ทุกส่วนงาน ตระหนักถึงการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน จึงกำหนดตัวชี้วัดและเป้าหมาย โดยคำนวณมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้าง จากรายสินค้าและบริการที่ขึ้นทะเบียนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของกรมควบคุมมลพิษ ไว้ดังนี้
- ปีงบประมาณ 2569 ค่าเป้าหมาย 75%
- ปีงบประมาณ 2570 ค่าเป้าหมาย 80%
- ปีงบประมาณ 2571 ค่าเป้าหมาย 85%
- ปีงบประมาณ 2572 ค่าเป้าหมาย 90%
มหาวิทยาลัยมหิดลได้ดำเนินงานประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง นโยบายส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยมหิดล อย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายไว้ในข้อตกลงการปฏิบัติงานร่วมกับทุกส่วนงาน (Performance Agreement: PA) เพื่อต่อยอดการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ โดยกำหนดให้สัดส่วนมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าหรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของทุกส่วนงาน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี และไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของสินค้าที่จัดซื้อทั้งหมดภายในปีงบประมาณ 2572 ดังรูป
เป้าหมายดังกล่าวไม่เพียงช่วยยกระดับระบบการจัดซื้อจัดจ้างให้มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน แต่ยังส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมจากทุกหน่วยงานในมหาวิทยาลัย ทั้งยังสะท้อนถึงบทบาทสำคัญของส่วนงานต่าง ๆ ในการร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
ความร่วมมือในการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของส่วนงานภายในมหาวิทยาลัยมหิดล
1. ส่งเสริมให้มีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
มหาวิทยาลัยมหิดลได้จัดโครงการสัมมนาเครือข่ายนักวิชาการพัสดุ “แนวทางปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุของมหาวิทยาลัยมหิดล” ระหว่างวันที่ 20–21 ธันวาคม 2567 เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานด้านพัสดุให้สอดคล้องกับระเบียบที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อการวิจัยและพัฒนา การให้บริการวิชาการ การแก้ไขสัญญา การจัดเตรียมเอกสารเพื่อวางฎีกาเบิกจ่าย ตลอดจนการติดตามผลการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัย เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรด้านพัสดุมีความเข้าใจในหลักปฏิบัติที่ถูกต้อง และสามารถขับเคลื่อนการจัดซื้อจัดจ้างเชิงสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม โครงการดังกล่าวยังมีส่วนช่วยสร้างเครือข่ายความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้านพัสดุของมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อร่วมกันผลักดันวัฒนธรรมการจัดซื้อจัดจ้างที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมภายในองค์กร นอกจากนี้ ได้ส่งต่อองค์ความรู้สู่ส่วนงาน และมีการการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ภายในองค์กร อย่างเช่น การจัดอบรมของเจ้าหน้าที่คณะเภสัชศาสตร์ จำนวน 40 คน เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2567 เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและมีแนวปฏิบัติที่ถูกต้อง โดยคลอบคลุมความรู้เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของคณะฯ ฉลากสิ่งแวดล้อมและการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ประเภทสินค้าที่ได้รับการรับรองเป็นสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามรายการที่กรมควบคุมมลพิษกำหนด และและแนวทางการจัดประชุมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2. การจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการ
ส่วนงานภายในมหาวิทยาลัยมหิดลให้ความร่วมมือในการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยมีการบูรณาการมาตราการในขอบเขตของงาน (TOR) และเงื่อนไขสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อส่งเสริมให้ทั้งส่วนงานภายในมหาวิทยาลัยมหิดลและให้องค์กรภายนอกที่เป็นผู้ประกอบการร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างแรงจูงใจผลิตสินค้าให้ตรงตามเกณฑ์ข้อกำหนดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นเพื่อให้เข้ากับมาตรฐานที่มหาวิทยาลัยกำหนด ซึ่งมีการดำเนินการดังนี้
- กำหนดคุณลักษณะเฉพาะของสินค้าและบริการ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ฉลากเขียว ตะกร้าเขียว ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ฉลากใบไม้เขียว Green Hotel และมาตรฐานสิ่งแวดล้อมอื่นที่เกี่ยวข้อง
- การจ้างเหมาบริการทำความสะอาด ได้กำหนดข้อกำหนดใน TOR เกี่ยวกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้องไม่มีส่วนผสมของสารอันตรายที่ห้ามใช้ ได้รับการรับรองมาตรฐานวิธีการที่ดีในการผลิตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานฉลากเขียว หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ตลอดระยะเวลาสัญญาจ้าง
มาตรการดังกล่าวช่วยผลักดันให้การจัดซื้อจัดจ้างของมหาวิทยาลัยเป็นไปตามหลักการผลิตและบริโภคอย่างยั่งยืน (Sustainable Consumption and Production) ลดการเกิดของเสียตั้งแต่ต้นทาง และยกระดับความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมของภาคธุรกิจในห่วงโซ่อุปทาน
3. การดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นอกจากการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยแล้ว มหาวิทยาลัยมหิดลได้ขยายมาตรการดังกล่าวไปยังงานจ้างเหมาภายนอกและห่วงโซ่อุปทาน โดยกำหนดให้ผู้รับจ้าง ผู้รับเหมาก่อสร้าง ปฏิบัติตามแนวทางลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การลดการใช้บรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียว การเลือกใช้วัสดุที่ได้รับการรับรองฉลากสิ่งแวดล้อม (Eco-label) รวมถึงการจัดการของเสียอย่างถูกต้องและเป็นระบบ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการคัดเลือกสินค้าจากผู้ผลิตที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยส่งเสริมให้บุคลากรใช้งานกระดาษอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การนำกระดาษที่พิมพ์แล้วด้านเดียวกลับมาใช้ซ้ำสำหรับงานภายในสำนักงานที่ไม่เป็นทางการ และการพิมพ์หรือถ่ายเอกสารทั้งสองหน้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทและดุลยพินิจของส่วนงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ กระดาษที่หมดสภาพการใช้งานแล้วจะถูกคัดแยกเพื่อนำเข้าสู่ระบบรีไซเคิลผ่านโครงการธนาคารขยะรีไซเคิลของมหาวิทยาลัย ซึ่งช่วยลดปริมาณของเสีย และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านการบริโภคและการผลิตที่รับผิดชอบ
มหาวิทยาลัยมหิดลสนับสนุนการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในงานโครงการต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น การปรับปรุงห้องปฏิบัติการศาสตราจารย์นายแพทย์นที รักษ์พลเมือง สำนักงานอธิการบดี ซึ่งมีการเลือกใช้พัสดุที่ผลิตภายในประเทศ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนฉลากเขียว เช่น ฝ้าเพดานกรุยิปซั่มบอร์ด สีน้ำอะคริลิก อิฐมวลเบา และแผ่นลามิเนต เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
ตัวอย่างการกำหนดมาตรฐานสำหรับวัสดุที่ใช้ในงานก่อสร้าง อย่างแผ่นลามิเนตมีการกำหนดมาตรฐานที่ได้รับดังนี้
- มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแผ่นเหอร์เมเซ็ตติงลามิเนท มอก 1163-2536
- มาตรฐานการรับรองระบบบริหารงานมาตรฐาน (1509001:2006)
- มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวตล้อม (15014001:2004)
- มาตรฐานระบบการจัดการ (OHSAS18001:2007 , NEMA standards, LD3-200, European NationalStandards SEN 438:1995 wax 1504586-2 )
- มาตรฐานการรับรองภายในอาคารว่าไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน (GREENGUARD indoor Air Quality [IAQ) certified)
- มาตรฐานการรับรองภายในอาคารว่าไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานสำหรับเด็กและสถานศึกษา (GREENGUARD IAO certified for Childern & school , Green LABEL)
- มาตรูฐาน FSC หลักประกันของการบริหารจัดการบำไม้อย่างยั่งยืน
- ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานสากล 150 4586:1997 และ EN438

4. การติดตามและรายงานผล
มหาวิทยาลัยมหิดลมีการติดตามร้อยละของมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นรายไตรมาสตลอดปีงบประมาณ เพื่อประเมินประสิทธิผลของมาตรการในเชิงระบบ โดยพบว่าปริมาณการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ ในภาพรวมปีงบประมาณ 2567 ส่วนงานของมหาวิทยาลัยจำนวน 29 ส่วนงาน จากทั้งหมด 39 ส่วนงาน (คิดเป็น 74.35%) มีสัดส่วนมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า 65% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้