โครงการพลิกฟื้นวิถีสังคมและระบบนิเวศสังคมกลุ่มชาติพันธุ์ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก Climate change Resilience of Indigenous SocioEcological systems (RISE)
โครงการพลิกฟื้นวิถีสังคมและระบบนิเวศสังคมกลุ่มชาติพันธุ์ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก Climate change Resilience of Indigenous SocioEcological systems (RISE)
ที่มาและความสำคัญ
ปฏิญญาสากลว่าด้วยเรื่องสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ประกาศโดยสหประชาชาติให้ความสำคัญกับสิทธิในการอยู่อาศัยในแผ่นดิน เขตแดน และใช้ประโยชน์ทรัพยากรซึ่งกลุ่มชาติพันธุ์นั้นได้อยู่กินมาตั้งแต่บรรพกาลได้ครอบครอง ได้อาศัย ใช้ประโยชน์มาตั้งแต่อดีต ในบริบทนี้กลุ่มชาติพันธุ์มีสิทธิกินอยู่ มีสิทธิหาอาหาร และดำเนินวิถีชีวิตตามประเพณีต่อเนื่อง ทำให้การดูแลระบบอาหารดั้งเดิมตามประเพณีอย่างยั่งยืนนั้น เป็นประเด็นสำคัญเร่งด่วนซึ่งที่ประชุมสหประชาชาติได้ให้ความสำคัญ โดยกำหนดเป็นวาระสำคัญอย่างถาวร (United Nations Permanent Forum of Indigenous Peoples’ Issues: UNPFII) เพื่อกลุ่มชาติพันธุ์อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามแม้จะมีปฏิญญาสำคัญรองรับ แต่กลุ่มชาติพันธุ์เป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางสูงอันเกิดจากความแปรปรวนของภูมิอากาศ วิกฤติสิ่งแวดล้อมและปัจจัยอื่นๆ โครงการวิจัย Climate change Resilience of Indigenous Socio Ecological Systems (RISE) ซึ่งดำเนินการวิจัยร่วมกันระหว่าง 3 ประเทศ ประกอบด้วยประเทศญี่ปุ่น ประเทศรัสเซีย และประเทศไทย เพื่อเชื่อมต่อช่องโหว่การพัฒนา โดยใช้โครงการที่เป็นนวัตกรรมสหวิทยาการสำหรับประเมินและสร้างความเข้าใจต่อความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ส่งผลต่อระบบนิเวศสังคมของกลุ่มชาติพันธุ์ (indigenous socioecological systems) ด้วยการดำเนินงานหลายส่วน ประกอบด้วย
โครงการพลิกฟื้นวิถีสังคมและระบบนิเวศสังคมกลุ่มชาติพันธุ์ฯ ข้างต้นเป็นงานวิจัยที่ดำเนินงานโดยการมีส่วนร่วมกับชุมชน ใช้วิธีศึกษาทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยกรอบแนวคิดทางสังคมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ในชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ (กะเหรี่ยง) ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งดำเนินในช่วง พ.ศ.2564 - พ.ศ. 2566 โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการประมาณ 560 คน ประกอบด้วยคนในชุมชน หน่วยงานท้องถิ่น นักวิจัย นักวิชาการ (ในประเทศและต่างประเทศ)
วัตถุประสงค์ของการดำเนินงาน
ความร่วมมือของโครงการ
หน่วยงานท้องถิ่น:
หน่วยงานภายในประเทศ:
หน่วยงานระหว่างประเทศ:
ผลลัพธ์ที่นำไปใช้ประโยชน์จากโครงการ
ผลกระทบทางสังคม
1) สถานการณ์ด้านอาหารและแนวทางการพัฒนาภาวะโภชนาการเพื่อเปนข้อมูลสำหรับชุมชน หน่วยงานท้องถิ่น และหน่วยงานส่วนกลางเห็นความสำคัญ รวมถึงร่วมส่งเสริมงานพัฒนาอาหารและโภชนาการของประชากรกลุ่มเปราะบาง
2) องค์ความรู้ในการประเมินความเสี่ยงของผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อระบบอาหารพื้นเมือง
3) องค์ความรู้และแนวทางการปรับตัวของชุมชนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม
4) ผู้นำและเยาวชนในชุมชนมีความเข้าใจ ตระหนักต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมที่ส่งผลต่อระบบอาหารและสุขภาพของสมาชิกในชุมชน
5) ผู้นำและเยาวชนที่ร่วมกระบวนการวิจัยมีความมั่นใจและมีศักยภาพในการทำงานวิจัยที่อาจนำไปสู่การจัดการตนเองและส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหารอย่างยั่งยืนท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในอนาคต
แนวทางการธำรงรักษา (แผนงานต่อไปที่จะทำให้เกิดความยั่งยืน)
1) ส่งต่อองค์ความรู้และข้อมูลให้กับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เห็นความสำคัญและใช้ประโยชน์ทรัพยากรชีวภาพอย่างต่อเนื่องโดยสอดคล้องกับระบบนิเวศและวัฒนธรรมท้องถิ่น
2) ค้นหาโอกาสในการส่งเสริมปฏิบัติการและศักยภาพชุมชนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate action) รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ สังคมที่กระทบต่อระบบอาหาร ความมั่นคงด้านอาหารของชุมชน
3) การนำผลลัพธ์จากการโครงการไปเผยแพร่ ในการประชุมวิชาการ ระดับชาติ /บทเรียนการดำเนินงาน FAO ขอรับไปพิจารณาบรรจุในเนื้อหาหนังสือ/ การเผยแพร่ ผ่านทาง youtube