Policies & Plans

                            โดยที่มหาวิทยาลัยมีนโยบายขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยมหิดลสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Mahidol University Sustainability Action) ตาม 17 เป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาคมมหิดลเกิดจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการลดบรรจุภัณฑ์ประเภทพลาสติกและโฟม ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหามลภาวะและภาวะโลกร้อนจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงกำหนดนโยบายการลดขยะพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งไว้ดังต่อไปนี้

1. ให้ยกเลิกประกาศมหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง นโยบายส่งเสริมการลดใช้พลาสติกและงดใช้โฟม มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2564
2. ในประกาศนี้
   • “มหาวิทยาลัย” หมายความว่า มหาวิทยาลัยมหิดล
   • “ส่วนงาน” หมายความว่า สำนักงานสภามหาวิทยาลัย สำนักงานอธิการบดี วิทยาเขต คณะ และส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ
   • “ร้านค้า” หมายความว่า ผู้ประกอบการหรือสถานที่จำหน่ายสินค้าและหรือให้บริการในพื้นที่มหาวิทยาลัย ได้แก่ ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านเครื่องดื่ม ร้านสหกรณ์ ร้านค้าในโรงอาหาร ร้านค้าในตลาดนัด ร้านค้าในสถานพยาบาล และร้านประเภทอื่น ๆ
   • “พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง” หมายความว่า ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ผลิตขึ้นเพื่อประสงค์ในการใช้งานเพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง เช่น ถุงหูหิ้วพลาสติก ถุงร้อนพลาสติก กล่องอาหารพลาสติก ช้อนและส้อมพลาสติก
   • แก้วน้ำพลาสติก ฝาแก้วพลาสติก หลอดพลาสติก โฟม เป็นต้น
   
   

3. ส่วนงานและร้านค้าควรหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง ที่มีโอกาสเป็นไมโครพลาสติกตกค้างในสิ่งแวดล้อม สำหรับการจำหน่ายอาหารและหรือเครื่องดื่ม การจัดเลี้ยงอาหารและหรือเครื่องดื่ม และกิจกรรมอื่น ๆ ภายในมหาวิทยาลัย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

   บรรจุภัณฑ์ที่แนะนำให้หลีกเลี่ยง	บรรจุภัณฑ์ที่แนะนำเลือกใช้	ราคาที่แนะนำ
   3.1 หลีกเลี่ยงการใช้ถุงหูหิ้วและถุงที่ทำจากพลาสติกหรือพลาสติกชนิดแตกสลายได้ (Oxo-Degradable Plastic/Degradable Plastic/Environmentally Degradable Plastic)	ให้ใช้ถุงกระดาษ และให้ร้านค้าเลือกใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วสำหรับ อาหารอุ่นร้อน และถุงร้อนสำหรับบรรจุอาหาร	ร้านค้าอาจเรียกเก็บค่าถุงกระดาษดังกล่าวเพิ่มเติมจากราคาสินค้าได้ ในอัตราไม่น้อยกว่า 5 บาท
   3.2 หลีกเลี่ยงการใช้แก้วพลาสติกประเภท PLA (Polylactic Acid) และแก้วพลาสติกบาง	ให้ส่วนงานและร้านค้าเลือกใช้แก้วที่ผลิตจากเยื่อพืช หรือเยื่อกระดาษที่เคลือบวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ หรือแก้วพลาสติกประเภท 1 (Polyethylene Terephthalate: PET) ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการ รีไซเคิล ตามลำดับ	ร้านค้าอาจเรียกเก็บค่าแก้วดังกล่าวเพิ่มเติมจากราคาสินค้าได้ ในอัตราไม่น้อยกว่า 3 บาท
   3.3 หลีกเลี่ยงการใช้ฝาแก้วพลาสติกสำหรับเครื่องดื่ม	ให้ส่วนงานและร้านค้าเลือกใช้ฝาแก้วที่ผลิตจากเยื่อพืช หรือเยื่อกระดาษที่เคลือบวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ หรือฝาแก้วพลาสติกประเภท 1 (Polyethylene Terephthalate: PET) ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการ รีไซเคิล ตามลำดับ	ไม่กำหนด
   3.4 หลีกเลี่ยงการใช้หลอดพลาสติก	ให้ร้านค้าเลือกใช้หลอดที่ผลิตจากเยื่อพืช	ไม่กำหนด
   3.5 หลีกเลี่ยงการใช้กล่องหรือบรรจุภัณฑ์อาหารพลาสติก	ให้ร้านค้าใช้กล่องหรือบรรจุภัณฑ์บรรจุอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือสามารถรีไซเคิลได้ (เช่น ชานอ้อย ใยกล้วย กาบหมาก ไม้ไผ่ มันสำปะหลัง)หรือกระดาษ หรือกล่องอาหารพลาสติกประเภท 1 (Polyethylene Terephthalate: PET) ตามลำดับ	ร้านค้าอาจเรียกเก็บค่ากล่องหรือบรรจุภัณฑ์เพิ่มเติมจากราคาสินค้าได้ ในอัตราไม่น้อยกว่า 5 บาท
   3.6 หลีกเลี่ยงการใช้ช้อนและส้อมพลาสติกพลาสติก	ให้ร้านค้าเลือกใช้ช้อนและส้อมที่ผลิตจากเยื่อพืช และไม้	ไม่กำหนด

   
   
   • การดำเนินการของร้านค้าตามข้อ 3.1 - 3.6 ให้ดำเนินการได้เฉพาะกรณีที่มีการร้องขอจากลูกค้าเท่านั้น
   • ในกรณีที่ส่วนงานมีความจำเป็นต้องใช้บรรจุภัณฑ์ที่แนะนำให้หลีกเลี่ยง ขอให้ส่วนงานพิจารณาดำเนินการจัดทำระบบการจัดการขยะภายใน เพื่อลดปริมาณขยะที่ส่งไปยังหลุมฝังกลบ (Landfill)
   
   

4. ให้ส่วนงานและร้านค้างดการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มประเภทโฟมในทุกกรณี

5. ให้ส่วนงานหรือร้านค้าคัดแยกขยะพลาสติกแต่ละประเภทและทำความสะอาด เพื่อให้เหมาะสมต่อการนำไปรีไซเคิล

6. ให้ส่วนงานกำหนดมาตรการในการกำกับดูแลร้านค้าให้สอดคล้องกับนโยบายการลดขยะพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งของมหาวิทยาลัย

7. ให้ส่วนงานรณรงค์และประชาสัมพันธ์การพกพาและใช้ภาชนะและอุปกรณ์ส่วนตัวในการซื้ออาหารและเครื่องดื่ม เช่น แก้ว หลอด ภาชนะบรรจุอาหาร ช้อนส้อม ถุงผ้า เป็นต้น เพื่อลดการใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง

8. ส่วนงานอาจกำหนดนโยบายการลดขยะพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งภายในส่วนงานเพิ่มเติมหรือแตกต่างจากประกาศนี้ได้ โดยจัดทำเป็นประกาศส่วนงาน ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวต้องเหมาะสมกับบริบทของส่วนงาน

9. มหาวิทยาลัยจะดำเนินการติดตามปริมาณขยะที่เกิดขึ้นในแต่ละส่วนงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการวางแผนและปรับปรุงแนวทางการจัดการขยะให้ดียิ่งขึ้น